เปิด 10 อันดับธุรกิจแฟรนไชส์ขาขึ้น-ขาลง ดันตลาดโต 18% แตะ 3 แสนล้านบาท

ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยยังคงแสดงศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 18% และมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 300,000 ล้านบาท บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน ได้ผนึกกำลังกับภาครัฐและเอกชน จัดงาน “Thailand Franchise & Business Opportunities (TFBO 2025)” อย่างยิ่งใหญ่เป็นปีที่ 21 เพื่อเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในพิธีเปิดงาน TFBO 2025 ว่า ธุรกิจแฟรนไชส์มีบทบาทสำคัญในการสร้างผู้ประกอบการใหม่หลายพันราย ก่อให้เกิดการจ้างงานนับหมื่นตำแหน่ง และช่วยเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยงาน TFBO เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้เจ้าของแฟรนไชส์และนักลงทุนได้พบปะเจรจาธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าอย่างมั่นคง และเสริมสร้างบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางธุรกิจระดับนานาชาติในภูมิภาคอาเซียน

ภาพรวมและเทรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์ไทย

นายกวิน กิตติบุญญา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด เผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจแฟรนไชส์ถึง 661 กิจการ กลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาหารและเบเกอรี่ (217 กิจการ), เครื่องดื่มและไอศกรีม (168 กิจการ), การศึกษา (105 กิจการ), บริการ (76 กิจการ), และอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก (48 กิจการ)

สำหรับปี 2025 นายกวินคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเทรนด์แฟรนไชส์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

นายสุทธิชัย พนิตนรากุล นายกสมาคมแฟรนไชส์ และไลเซนส์ ได้เสริมถึงข้อมูลเทรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์ที่เป็นขาขึ้น 10 อันดับแรกในปี 2025 ได้แก่:

• ธุรกิจการแพทย์และดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย
• ธุรกิจบริการความงาม สปา
• ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
• ธุรกิจอาหารและเบเกอรี่
• ธุรกิจเครื่องดื่มและไอศกรีม
• ธุรกิจค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา
• ธุรกิจการศึกษา
• ธุรกิจบริการ (สะดวกซัก, ตู้หยอดเหรียญ, คาร์แคร์)
• ธุรกิจบริการชาร์จรถ EV
• ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ในทางกลับกัน ธุรกิจที่มีแนวโน้มขาลง ได้แก่ ร้านอาหารขนาดใหญ่, ธุรกิจขนส่งพัสดุ, ร้านค้าโชห่วย, ธุรกิจให้เช่า VDO, ธุรกิจถ่ายเอกสารและงานพิมพ์, ธุรกิจบริการถ่ายรูป โฟโต้แลป, ธุรกิจรถเช่า และรถยนต์มือสอง