เตือนจริงจัง! นักจิตวิทยาย้ำ “อย่าทำ 4 สิ่งนี้” เพื่อระงับอารมณ์ลูก ไปกดทับความรู้สึกเต็มๆ

เตือนจริงจัง!-นักจิตวิทยาย้ำ-“อย่าทำ-4-สิ่งนี้”-เพื่อระงับอารมณ์ลูก-ไปกดทับความรู้สึกเต็มๆ
เตือนจริงจัง! นักจิตวิทยาย้ำ “อย่าทำ 4 สิ่งนี้” เพื่อระงับอารมณ์ลูก ไปกดทับความรู้สึกเต็มๆ

สร้างทักษะจัดการอารมณ์เด็กตั้งแต่เล็ก! นักจิตวิทยาเตือน ห้ามทำ 4 สิ่งนี้ หากไม่อยากไปกดทับความรู้สึกลูก

คุณหมอใจดี (心小姐) นักจิตวิทยาการศึกษาและเด็กที่ได้รับการรับรองวิชาชีพ ซึ่งมีชื่อเสียงจากการทำงานทั้งในฮ่องกงและสหราชอาณาจักร เผยว่า หลายครอบครัวไม่รู้ตัวว่ากำลังกดทับความรู้สึกของลูกโดยไม่ตั้งใจ พร้อมแนะนำแนวทาง 3 วิธีจัดการอารมณ์ลูก และ 4 ข้อควรระวังในการสื่อสาร ช่วยให้ลูกเรียนรู้ที่จะเข้าใจและแสดงอารมณ์อย่างเหมาะสม

เพราะพ่อแม่คือกระจกสะท้อนอารมณ์ของลูก การสร้างพื้นฐานที่มั่นคงด้านอารมณ์ของเด็ก เริ่มจากการ “รับฟัง” และ “ยอมรับ” ความรู้สึกของลูกในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ลูกควรรู้ว่าพ่อแม่จะอยู่เคียงข้างเสมอ

3 วิธีรับมืออารมณ์ลูกแบบไม่กดทับ

  1. พ่อแม่ต้องใจเย็น เป็นแบบอย่างที่ดี เด็กมักเลียนแบบการตอบสนองของผู้ใหญ่ หากพ่อแม่ควบคุมอารมณ์ได้ดี เด็กก็จะเรียนรู้ไปในทิศทางเดียวกัน สิ่งที่ต้องทำคือ หยุดพัก หายใจลึกๆ แล้วพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงสงบ
  2. เปิดโอกาสให้ลูกได้พูด และยอมรับความรู้สึกเขา เมื่อลูกรู้สึกโกรธหรือเศร้า ควรให้เขาได้แสดงออก ไม่ใช่สั่งให้เงียบหรือเลิกเศร้า สิ่งที่ต้องทำคือ รับฟังความรู้สึกลูกก่อน แล้วค่อยให้คำแนะนำหรือปลอบใจ
  3. เคารพความคิดเห็นลูก แนะนำแต่ไม่บังคับ การเปิดโอกาสให้ลูกมีสิทธิ์เลือก จะทำให้เขารู้สึกเป็นเจ้าของอารมณ์และพร้อมร่วมมือ สิ่งที่ต้องทำคือ เสนอทางเลือก เช่น “ลูกอยากนั่งพักในที่เงียบๆ หรืออยากมากอดแม่สักหน่อยดี?”

หลีกเลี่ยง 4 พฤติกรรมที่อาจยิ่งกดดันลูก

  1.  อย่าด่วนตัดบท แต่ควรสะท้อนความรู้สึกลูกก่อน
    ห้ามพูด: “อย่าร้องไห้เลย เรื่องเล็กนิดเดียว”
    ควรพูด: “แม่เห็นหนูเสียใจนะ แม่อยู่ตรงนี้นะ หนูอยากเล่าให้แม่ฟังไหม?”
  2. หลีกเลี่ยงการตั้งคำถามตำหนิ
    ห้ามพูด: “ทำไมต้องโกรธด้วย?”
    ควรพูด: “แม่เข้าใจนะที่ลูกไม่สบายใจ เพราะเพื่อนไม่เล่นด้วยใช่ไหม?”
  3. สอนให้ใช้คำพูดแทนพฤติกรรมรุนแรง
    ห้ามพูด: “หยุดโกรธเดี๋ยวนี้!”
    ควรพูด: “ถ้ารู้สึกโกรธ หนูอาจพูดว่า ‘หนูโกรธเพราะ…’ ก็ได้นะ ไม่ต้องกรี๊ดหรือปาข้าวของ”
  4. ให้ทางเลือก แทนการสั่ง
    ห้ามพูด: “หยุดเดี๋ยวนี้!”

    ควรพูด: “หนูอยากนั่งพักเงียบๆ หรืออยากให้แม่กอดไว้สักพัก?”

3 กิจกรรมฝึกอารมณ์ลูกในชีวิตประจำวัน

  1. ใช้เครื่องมือช่วยมองเห็นอารมณ์ เช่น การ์ดอารมณ์ หรือเทอร์โมมิเตอร์อารมณ์ ให้ถามลูกว่า “ตอนนี้หนูรู้สึกอะไร?” หรือ “หนูโกรธประมาณกี่คะแนนจาก 0-10?”

  2. เล่านิทานและเล่นบทบาทสมมติ ให้ชวนลูกคิดว่า “ตัวละครในนิทานเศร้าเพราะอะไร? แล้วเขาทำยังไงให้รู้สึกดีขึ้น?”

  3. ตั้งช่วงเวลาแบ่งปันความรู้สึกในครอบครัว เช่น ทุกคืนก่อนนอน ใช้เวลา 10 นาที สลับกันเล่าความรู้สึกดีๆ หรือเรื่องไม่สบายใจในแต่ละวัน

เสริมสร้างทักษะการจัดการอารมณ์ และรู้จักตนเอง พ่อแม่สามารถสอนลูกผ่าน 3 ขั้นตอนสำคัญ คือ รู้ตัว (Aware) , ยอมรับ (Accept) , ลงมือทำ (Action) สร้างสภาพแวดล้อมในบ้านที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และการเคารพความคิดเห็นลูก ให้พื้นที่และเวลาให้เขาเรียนรู้ที่จะคิดและตัดสินใจด้วยตนเอง นี่คือกุญแจสำคัญสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและเป็นตัวของตัวเอง

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.sanook.com/news/9797974/&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3xcTKNSZVqO3zPVhHcMW_K

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *