- หน้าแรก
- การศึกษา
มีดีไม่ทิ้งกัน ดูไบ โรงเรียนคนรวย กับ เวียดนาม โรงเรียนคนจน

ถ้าเทียบระหว่างผลการเล่าเรียนของนักเรียนในดูไบ ที่เป็นเมืองของคนมีเงิน กับ โรงเรียนในเวียดนาม ที่ผู้คนมีเงินทองน้อยกว่ามาก จะพบว่า ต่างคนต่างมีดีไม่ทิ้งกันจนขาดลอย
ถ้าเทียบระหว่างผลการเล่าเรียนของนักเรียนในดูไบ ที่เป็นเมืองของคนมีเงิน กับ โรงเรียนในเวียดนาม ที่ผู้คนมีเงินทองน้อยกว่ามาก จะพบว่า ต่างคนต่างมีดีไม่ทิ้งกันจนขาดลอย
ดูไบ มีคะแนน PISA 2022 อยู่ในสิบสี่อันดับแรกของโลก ในขณะที่เวียดนามอยู่ที่ 34 ดูไบมีคะแนนคณิตศาสตร์ ที่อันดับที่ 9 เวียดนามอยู่ที่ 31 ซึ่งที่ชนะเวียดนามเป็นเท่าตัวนั้น
เพราะเก้าสิบเปอร์เซนต์ของนักเรียนในดูไบเล่าเรียนในโรงเรียนเอกชน ที่เล่าเรียนกันด้วยหลักสูตรของประเทศตะวันตกชั้นนำ นักเรียนและครูอาจารย์ก็มาจากนานาชาติ มีสารพัดเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ก่อนหน้า PISA 2022 เวียดนามชนะดูไบทั้งในเรื่องคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่านให้รู้ความหมาย ดูไบลงแรงลงเงินครั้งใหญ่ในด้านการศึกษา ย้อนกลับมาชนะเวียดนามได้
ดูไบตั้งหน่วยงาน Knowledge and Human Development Authority (KHDA) ขึ้นมากำกับดูแลคุณภาพการศึกษาเอกชน ซึ่งเป็นการศึกษาส่วนใหญ่อย่างจริงจัง ยกเครื่องกระบวนการประกันคุณภาพขนานใหญ่ เดินหน้าการศึกษาให้มีความรับผิดชอบ และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
เล่าเรียนกันแล้ว ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนไม่ได้ตามที่วางแผนหลักสูตรกันไว้ ครูและผู้บริหารโรงเรียนต้องรับผิดชอบ จะมาโทษว่านักเรียนไม่ตั้งอกตั้งใจเล่าเรียนไม่ได้
มีการตั้งหน่วยงาน Dubai Schools Inspection Bureau (DSIB) ขึ้นมาติดตามผลลัพธ์การเรียนรู้ และการปรับปรุงที่ต้องการให้มีขึ้นอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
ดูไบกำหนดคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นครูไว้อย่างโดดเด่น จะเป็นครูประจำชั้น อย่างน้อยต้องมีปริญญาโท พ่วงกับอีกสารพัดการฝึกอบรม ที่ต้องมาจากสถาบันที่ KHDSA ให้การรับรองวิริยะฐานะเท่านั้น
จะเป็นครูสอนวิชาใดก็ต้องจบปริญญาตรีในสาขานั้น พ่วงกับการฝึกอบรมอีกหลายเรื่อง ถ้าเป็นวิชาชีพ ครูต้องมีใบประกอบวิชาชีพในสาขานั้นเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย กว่าจะมาเป็นครูที่ดูไบได้ไม่ง่ายเลย
โรงเรียนในดูไบจึงเล่าเรียนศาสตร์สมัยใหม่กันอย่างเท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เขาพยายามสร้างทักษะใหม่สำหรับอนาคตเตรียมไว้ก่อนตั้งแต่วันนี้ นักเรียนไม่ใช่แค่ใช้ AI เป็น แต่ยังรู้จัก Digital Twins ไปจนถึง Cryptocurency
ซึ่งถ้ามาคุยกันในโรงเรียนในบ้านเรา คงมีไม่มากนักที่จะรู้เรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง ดูไบทำได้ดี เพราะเขามีเงินทองมากพอที่จะสร้างระบบนิเวศที่มีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นครู นักเรียน เทคโนโลยี นอกจากนั้นยังมีระบบธุรกิจที่โปร่งใส มีการแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโรงเรียนจะวิเศษแค่ไหน เขาไม่มีการอ่อนข้อยอมยกเว้นในเรื่องคุณภาพ การประกันคุณภาพที่กระทำอย่างจริงจังนั้นลงลึกไปถึงการปฏิบัติและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพียงแค่การจัดทำรายงานกันไปโดยไม่มีการนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังเหมือนที่บ้านเราคุ้นเคยกันอยู่ เก่งเขียนรายงาน เก่งตรวจรายงาน แต่ไม่อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นเลิศขึ้นมาได้จริง
ในขณะที่ดูไบเตรียมนักเรียนสำหรับทักษะอนาคต โรงเรียนไหนเก่งด้านไหนก็ว่าไปในด้านนั้น จะมีที่เหมือนกันคือสร้างนักคิด สร้างคนที่ปรับตัวได้ สร้างคนที่สร้างนวัตกรรมได้
เวียดนามตั้งใจสร้างคนเก่งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่านเพื่อให้ได้สาระสำคัญ เวียดนามสร้างนักเรียนที่ไปสอบ PISA แล้วจะได้คะแนนสูงแน่ ๆ
โดยดูตัวอย่างการเล่าเรียนเรื่องเหล่านี้ จากระบบการศึกษาของประเทศที่ประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ เช่น สิงค์โปร์ เกาหลี หลักสูตรเหมือนกันหมดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายว่าในอีกห้าปีข้างหน้า เขาจะมีการศึกษาชั้นนำของเอเชีย ซึ่งก็ใกล้จะบรรลุเป้าหมายกันแล้วในวันนี้
การมุ่งเน้นการศึกษาด้าน STEMS ร่วมกับแนวทางของ PISA ร่วมกับการกำหนดคุณสมบัติครูไว้อย่างโดดเด่นไม่ต่างไปจากดูไบ ช่วยทำให้มีแรงงานที่ดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมไฮเทค มากกว่าอีกหลายประเทศ รวมทั้งบ้านเราที่มุ่งเน้นการศึกษาพื้นฐานที่มีสาระหลากหลาย
ผู้ใหญ่ท่านใดเห็นว่าเรื่องไหนสำคัญ ก็แปลงเป็นวิชาให้เล่าเรียนกันไปหมด หวังดีแต่ผลลัพธ์เป็นอย่างไร คงตอบได้จากคะแนน PISA และการลงทุนโดยตรงด้านไฮเทคจากต่างประเทศ
จนหรือรวยก็สามารถสร้างความสำเร็จในเรื่องการศึกษาของลูกหลานได้ ขอเพียงแค่มีความชัดเจนในเป้าหมาย และจริงจังในเรื่องคุณภาพการศึกษา
ปากว่าคุณภาพ ใจและมือต้องทำอย่างมีคุณภาพด้วย.
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.bangkokbiznews.com/health/education/1181717&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw1NASQwIfbuAjq5JuJYZ589