- ถึงแม้ว่าอัตราการบริโภคผลิตภัณฑ์เนื้อและอาหารแปรรูปจากโปรตีนพืชในฝรั่งเศส จะยังมีระดับต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ในยุโรป แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ประกอบการมองเห็นโอกาส พัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้นตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และทำการตลาดเชิงรุกผ่านสื่อหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณาในสถานีรถไฟใต้ดินและสื่อโทรทัศน์
- บริษัทการตลาด Nielsen เปิดเผยว่าผลประกอบการตลาดสินค้าอาหารแปรรูปจากโปรตีนพืช (Plant-based meat) ปี 2024 ของฝรั่งเศสคิดเป็นมูลค่า 162 ล้านยูโรเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากปีก่อนหน้า โดยมีปริมาณขายสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวของสินค้าอาหารประเภทอื่นๆที่วางขายบนชั้นวางเดียวกันในห้างค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.3 ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่อาหารแปรรูปที่เลียนแบบหรือผลิตให้มีลักษณะใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเนื้อสัตว์ (Simulated Meat หรือ Alternative Meat) เช่น สเต็กจากถั่วเหลือง, แฮมจากถั่วเลนทิล, ไส้กรอกจากถั่วปากอ้า ฯลฯ มีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 33.5 ในปีที่ผ่านมาหรือเพิ่มขึ้น 87 ล้านยูโร
- ตลาดฝรั่งเศสมีแบรนด์ผู้ประกอบการสินค้าอาหารทางเลือกจากโปรตีนพืชโดยประมาณเพียง 20 รายซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าอาหารชนิดนี้โดยเฉพาะและบริษัทผู้ผลิตเนื้อสัตว์ที่ต้องการขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มโปรตีนทางเลือกจากพืช แบรนด์ผู้นำตลาดได้แก่ Garden Gourmet จากบริษัท เนสท์เล่ (ปี 2024 ยอดขาย 45 ล้านยูโร) และ HappyVore แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส (ยอดขาย 30 ล้านยูโร) โดยทั้งสองแบรนด์นี้ต่างครองส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกันที่ประมาณร้อยละ 20 นำหน้าแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด
- นาย Guillaume Gachet ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของแบรนด์ Garden Gourmet ฝรั่งเศส แสดงความเห็นว่า ถึงแม้ว่าตลาดโปรตีนทางเลือกจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่หากเปรียบเทียบกับตลาดสินค้าอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์แล้ว ยังคงถือว่าเป็นตลาดที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งเห็นตรงกันกับนาย Guillaume Dubois ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ HappyVore กล่าวไว้ว่า ตลาดโปรตีนทางเลือกในฝรั่งเศสมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 2 ของตลาดอาหารโปรตีนจากเนื้อสัตว์ แต่เนื่องจากอัตราการเติบโตในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการขยายตัวเป็นอย่างมาก จะส่งผลให้การบริโภคขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของตลาดอาหารแปรรูปทั้งหมดในอนาคต
- นาย Nicolas Dhers ประธาน Interveg (สมาคมผู้ประกอบการและหน่วยงานที่สนับสนุนการบริโภคโปรตีนทางเลือก) กล่าวว่า ถึงแม้ว่าตลาดโปรตีนจากพืชในฝรั่งเศสจะมีศักยภาพในการเติบโต แต่การบริโภค ณ ปัจจุบันยังมีความล้าหลังหากเทียบกับประเทศอื่นๆในทวีปยุโรป มูลค่าของตลาดฝรั่งเศสคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของมูลค่าการบริโภคในเยอรมนีซึ่ง 1 ใน 3 ของผู้บริโภคเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบจากโปรตีนทางเลือก หรือกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียที่มีอัตราการบริโภคสูงถึง 1 ใน 2 ของประชากร
- จากข้อมูลของบริษัทการตลาด Kantar ในปี 2022 พบว่า 1 ใน 10 ของผู้บริโภคชาวฝรั่งเศสที่มีอายุระหว่าง 16-25 ปี เป็นผู้บริโภคอาหารมังสวิรัติหรือผู้บริโภควีแกน ในขณะที่ผู้บริโภคชาวฝรั่งเศสโดยรวม 1 ใน 2 จัดเป็นผู้บริโภคประเภท Flexitarian หรือผู้ที่รับประทานเนื้อสัตว์เป็นหลักแต่เลือกที่จะงดหรือจำกัดการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นบางครั้ง ซึ่งช่วยส่งเสริมการบริโภคอาหารแปรรูปจากพืชเพิ่มขึ้น
- อย่างไรก็ตามเนื่องจากแบรนด์ต่าง ๆ สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย นาย Guillaume จาก Garden Gourmet ระบุว่า อัตราการกลับมาซื้อซ้ำของผู้บริโภคในตลาดโปรตีนทางเลือกนั้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภท Cold Cut เช่น แฮม, หมูสามชั้น และสินค้าทางเลือกอื่น ๆ นอกจากนั้นแบรนด์ต่างๆทำการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของตนโดยปรับปรุงส่วนประกอบของวัตถุดิบที่ใช้ให้มีคุณภาพและลดปริมาณการใช้สารปรุงแต่ง เพื่อให้ได้คะแนนด้านโภชนาการ Nutriscore ในระดับ A หรือ B โดยคะแนนเหล่านี้จะระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์สินค้าช่วยสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีต่อสุขภาพในสายตาของผู้บริโภค
ตัวอย่างสินค้าอาหารแปรรูปจากโปรตีนพืช
ตัวอย่างสินค้าออกใหม่ Croq’Coulis จากแบรนด์ HappyVore
ปริมาณ 190 กรัม ราคาขายปลีก 5.36 ยูโร
(ภาพประกอบ HappyVore)
Le Croc’ จากแบรนด์ Garden Gourmet ของบริษัทเนสท์เล่
ปริมาณ 180 กรัม ราคา 3.49 ยูโร
(ภาพประกอบ Garden Gourmet)
ความเห็นสคต.
จากข้อมูลของบริษัท Circana การบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากโปรตีนพืชทุกประเภทในฝรั่งเศส ปี 2023 (เนื้อจากพืช อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์นมและเครื่องดื่ม โยเกิร์ต และไอศกรีม) คิดเป็นมูลค่า 648 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2022 – 2023 ถึงแม้ว่าราคาของสินค้าอาหารจากโปรตีนพืช (plant-based meat) จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31 จากปี 2021 ที่ 9.52 ยูโรต่อกิโลกรัม เป็น 12.50 ยูโรต่อกิโลกรัมในปัจจุบัน แต่ความต้องการของตลาดยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนได้แก่ ความใส่ใจในสุขภาพของผู้บริโภค ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนรสชาติและเมนูที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความต้องการตลาดที่เพิ่มขึ้นนี้จะเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดสินค้าอาหารจากโปรตีนพืชเข้าสู่ฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป ซึ่งสามารถทำได้โดยการทำ Business Matching หรือผ่านงานแสดงสินค้าอาหารนานาชาติ SIAL (Salon International de l’Alimentation) ซึ่งจัดขึ้นทุกสองปี โดยงานครั้งหน้าจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 21 ตุลาคม 2026 ณ ศูนย์การแสดงสินค้า PARIS NORD 市 VILLEPINTE ซึ่งในระหว่างช่วงเวลานี้ผู้ประกอบการควรใช้โอกาสนี้ในการศึกษาข้อกำหนดกฎหมาย ข้อมูลตลาดและความต้องการของผู้บริโภคชาวฝรั่งเศสเพิ่มเติม เพื่อเตรียมพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด
ที่มาของข่าว
Paul Turban
ข้อมูลจาก Les Echos
https://www.lesechos.fr/industrie-services/conso-distribution/steak-de-soja-jambon-de-lentilles-le-secteur-du-traiteur-vegetal-progresse-en-france-2165748
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.ditp.go.th/ja/post/204909&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2c0VpCRiXeKFLBXsLNxmBR