ตลาดธุรกิจค้าปลีกในเทศกาลวันพ่อในสหรัฐอเมริกา – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ตลาดธุรกิจค้าปลีกในเทศกาลวันพ่อในสหรัฐอเมริกา-–-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ตลาดธุรกิจค้าปลีกในเทศกาลวันพ่อในสหรัฐอเมริกา – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Retail Federation หรือ NRF)     องค์กรที่มีนโยบายสนับสนุนธุรกิจค้าปลีกที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ค้าปลีกและแรงงานค้าปลีกทุกระดับได้คาดการณ์      ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในปีนี้ว่า จะมีมูลค่าแตะถึง 5.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ  โดยภาพรวม ภาคการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวอเมริกันในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ได้มีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายของธุรกิจค้าปลีกและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในเทศกาลสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลที่ผ่านพ้นมาเมื่อเร็วๆ นี้ เช่น เทศกาลวาเลนไทน์ อีสเตอร์ St. Patrick’s Day Super Bowl พิธีสำเร็จการศึกษา (Graduation) วันแม่ และเทศกาลถัดไปที่กำลังจะมาถึงได้แก่ วันพ่อ (Father’s Day) ซึ่งจะเป็นวันอาทิตย์สัปดาห์ที่สามของเดือนมิถุนายน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2568

ในทุกๆ ปี NRF ร่วมกับบริษัท Prosper Insights & Analytics  ผู้นำระดับโลกให้บริการ การวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจ ธุรกิจค้าปลีก แนวโน้มตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภค ได้ดำเนินการสำรวจ และคาดการณ์การใช้จ่ายของชาวอเมริกันในเทศกาลวันพ่อในปีนี้ว่า จะทำลายสถิติสูงสุดมีมูลค่า 24 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งมียอดขาย 22.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสูงกว่าสถิติเดิมที่ 22.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566

NRF ได้ระบุว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันให้ความสำคัญกับประเพณีและวันเทศกาลสำคัญๆ ที่มีความหมาย และในวันพ่อ ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้มีการวางแผนซื้อของขวัญให้กับพ่อ และบุคคลสำคัญเพื่อเป็นการแสดงความรัก โดยร้านค้าต่างๆ พร้อมนำเสนอไอเดียของขวัญ ข้อเสนอพิเศษ ตัวเลือกเพื่อการช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย มีความง่ายขึ้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการเลือกซื้อของขวัญที่เหมาะสมให้กับพ่อ

จากข้อมูลผลการสำรวจพบว่า

  • ผู้บริโภคชาวอเมริกันเกือบครึ่งวางแผนซื้อของขวัญให้กับพ่อหรือพ่อเลี้ยง (ร้อยละ 48)

สามี (ร้อยละ 25) ลูกชาย (ร้อยละ 12)  พี่ชายน้องชาย (ร้อยละ 9) เพื่อน (ร้อยละ 8)  ปู่หรือตา (ร้อยละ 6)

  • ผู้บริโภคมากกว่า 3 ใน 4 (ร้อยละ 76) มีการวางแผนเพื่อเฉลิมฉลองในวันพ่อ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 199.38 เหรียญสหรัฐต่อคน เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 189.81 เหรียญสหรัฐ ในปีที่ผ่านมา
  • กลุ่มอายุที่มีการใช้จ่ายสูงสุดมีอายุระหว่าง 35 – 44 ปี โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 278.90 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27 เหรียญสหรัฐ
  • ของขวัญที่นิยมซื้อมอบให้ในวันพ่อการ์ดอวยพร (ร้อยละ 58) เสื้อผ้า (ร้อยละ 55) การพาไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมพิเศษร่วมกัน (ร้อยละ 53) บัตรของขวัญ (ร้อยละ 50)  ของขวัญที่มีความพิเศษหรือมีความแตกต่าง (ร้อยละ 37)  ของขวัญที่สร้างความทรงจำพิเศษ        (ร้อยละ 37)
  • สินค้าที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กล่องของขวัญแบบสมัครสมาชิก (Subscription boxes) จากร้อยละ 34 ในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 43 ของขวัญในรูปแบบประสบการณ์ (Gifts of Experience)  จากร้อยละ 23 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30
  • การช้อปปิ้งออนไลน์ยังคงเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ร้อยละ 41) รองลงมาคือห้างสรรพสินค้า (ร้อยละ 35) ร้านค้าส่วนลด (ร้อยละ 23) ร้านค้าเฉพาะทาง (ร้อยละ 22) และธุรกิจท้องถิ่น/ขนาดเล็ก (ร้อยละ 19) ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า (ร้อยละ 15)
  • ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้ให้ความสำคัญกับของขวัญวันพ่อที่มีความพิเศษ หรือสามารถสร้างความทรงจำร่วมกันได้ เช่น การพาไปเที่ยวเป็นโอกาสในการสร้างความทรงจำใหม่ๆ และเฉลิมฉลองร่วมกัน การมอบสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสุขภาพเพื่อให้พ่อรู้สึกผ่อนคลายและได้รับการดูแล

ที่มา: https://nrf.com/media-center/press-releases/father-s-day-spending-to-reach-record-24-billion

                  สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ NRF คาดการณ์ว่า ยอดขายปลีกในปีนี้ จะมีอัตราการเติบโตอยู่ในช่วงระหว่างร้อยละ 2.7 ถึง 3.7 เมื่อเทียบกับปี 2024 โดยมีมูลค่ารวมอยู่ระหว่าง 5.42 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ถึง 5.48 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ  โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแสดงให้เห็นถึงแรงส่งที่ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ (ร้อยละ 4.2 ณ เดือนเมษายน 2568) และอัตราค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น

กลุ่มสินค้าในเทศกาลวันพ่อที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2562 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สินค้าที่เกี่ยวข้องการดูแลร่างกาย (Personal Care)  เครื่องมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เทคโนโยลี่ เครื่องมือการปรับปรุงบ้าน เครื่องมือทำสวน อุปกรณ์กีฬาและของใช้เพื่อความบันเทิง อุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ เป็นต้น

พฤติกรรมการบริโภคของชาวอเมริกัน ยังคงนิยมซื้อสินค้าทางออนไลน์  ตลาดอีคอมเมิร์ซของสหรัฐอเมริกามีขนาดใหญ่และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายของอีคอมเมริซ์ในไตรมาสแรกของปี 2568 มีมูลค่ารวม 275.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่ายอดขายรวมในปี 2568 จะสูงถึง 1.29 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.ditp.go.th/post/205791&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0YHu-SK49_MzfX5wzkPgHR

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *