ความขัดแย้งระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ กับอีลอน มัสก์ จุดเชื้อไฟให้นาซาอาจเผชิญ ‘วิกฤตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา’

The planet Pluto appears as a sandy brown in the blackness of space with what appears to be a light coloured heart shape appearing in the southern hemisphere

ที่มาของภาพ, NASA/Johns Hopkins

คำบรรยายภาพ, รูปหัวใจบนดาวพลูโตนี้ถ่ายโดยยานอวกาศที่จะถูกปลดประจำการระหว่างปฏิบัติภารกิจถ้ามีการอนุมัติให้ตัดงบสนับสนุนนาซา
  • Author, พัลลภ โกศ
  • Role, ผู้สื่อข่าววิทยาศาสตร์ บีบีซีนิวส์

ความขัดแย้งระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และ อีลอน มัสก์ เกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณหลัก ทำให้อนาคตงบประมาณขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา อยู่ในสถานะที่ไม่มั่นคง เพราะกำลังจะเผชิญกับการถูกตัดเงินทุนสนับสนุนครั้งใหญ่

องค์การอวกาศแห่งนี้ได้เปิดเผยคำของบประมาณประจำปีต่อสภาคองเกรสแล้ว พบว่า เงินทุนสำหรับโครงการทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ถูกปรับลดลงเกือบครึ่ง

ภารกิจทางวิทยาศาสตร์ 40 ภารกิจ ซึ่งมีทั้งที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและที่เริ่มปฏิบัติการในอวกาศแล้ว ใกล้จะต้องยุติลง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะยกเลิกสัญญาที่รัฐบาลกลางทำกับบริษัท สเปซเอ็กซ์ (Space X) ของ อีลอน มัสก์ ซึ่งนาซายังพึ่งพาจรวดฟัลคอน 9 (Falcon 9) ของบริษัทในการส่งลูกเรือและเสบียงไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) และองค์การอวกาศแห่งนี้ยังหวังจะใช้จรวดสตาร์ชิป (Starship) ของสเปซเอ็กซ์ ในการส่งนักบินอวกาศไปสำรวจดวงจันทร์ และอาจไปยังดาวอังคารด้วยหากพัฒนาสำเร็จ

ดร.ซีเมียน บาร์เบอร์ นักวิทยาศาสตร์อวกาศ ที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งสหราชอาณาจักร (Open University) ระบุว่า ความไม่แน่นอนนี้กำลังส่ง “ผลกระทบที่น่าหวาดหวั่น” ต่อโครงการอวกาศของมนุษยชาติ

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and continue reading

ได้รับความนิยมสูงสุด

  • ภาพ “ความสยดสยองของสงคราม” (The Terror of War) เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกในชื่อว่า “เด็กหญิงระเบิดนาปาล์ม” (Napalm Girl) ภาพนี้ทำให้นิก อู๊ต ได้รับรางวัลมากมายรวมถึงรางวัลพูลิตเซอร์ด้วย

  • A Cambodian soldier (2nd L) shakes hands with a Thai soldier (2nd R) at the disputed ancient Khmer temple Prasat Ta Muen Thom, or Prasat Ta Moan Thom in Khmer, on the Cambodian-Thai border in Oddar Meanchey province on March 26, 2025. (Photo by TANG CHHIN Sothy / AFP) (Photo by TANG CHHIN SOTHY/AFP via Getty Images)

  • Qian produced fundamental research on rocket propulsion.

  • .

End of ได้รับความนิยมสูงสุด

“การโต้ตอบกันไปมาที่น่าประหลาดใจ การตัดสินใจแบบปัจจุบันทันด่วน และการกลับไปกลับมาที่เราได้เห็นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บั่นทอนรากฐานสำคัญในความมุ่งหมายของเรา”

“วิทยาศาสตร์อวกาศและการสำรวจต้องพึ่งพาการวางแผนระยะยาว และความร่วมไม้ร่วมมือระหว่างรัฐบาล บริษัทต่าง ๆ และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ”

Graphic showing solar system planets alongside mission that are to be cancelled if the cuts are enacted. These are Mars Sample Return (MSR)  Landsat Next, Mars Odyssey, MAVEN, Support for European Space Agency’s Rosalind Franklin Mars rover mission, and ESA’s EnVision mission to Venus. DAVINCI and VERITAS, Juno, New Horizons and OSIRIS-APEX. Source Planetary Society

ที่มาของภาพ, BBC News

คำบรรยายภาพ, ภาพกราฟิกที่แสดงให้เห็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ และภารกิจต่าง ๆ ที่จะถูกยกเลิกหากมีการตัดเงินทุนสนับสนุน ประกอบด้วย การส่งตัวอย่างดินจากดาวอังคารกลับโลก, ดาวเทียมแลนด์แซทเน็กซ์, ยานมาร์สโอดิสซีย์, ยานเมเว็น, การสนับสนุนภารกิจสำรวจดาวอังคารของยานโรซาลินด์ แฟรงคลิน ขององค์การอวกาศยุโรป และภารกิจเอ็นวิชันขององค์การอวกาศยุโรปที่มีแผนสำรวจดาวศุกร์, ยานดาวินชีและยานเวอริทัส, ยานจูโน, ยานนิวฮอไรซันส์ และยานโอไซริส-เอเพ็กซ์ (ข้อมูลจากองค์กรแพลนเนตทารี โซไซตี (Planetary Society))

นอกจากความบาดหมางระหว่างทรัมป์ กับ มัสก์ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการที่ทำเนียบขาวเสนอตัดงบประมาณของนาซาจำนวนมาก

ทุกส่วนถูกกันไว้เป็นเงินออม ยกเว้นความพยายามส่งนักบินอวกาศไปดาวอังคารซึ่งได้รับงบประมาณเพิ่ม 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,278 ล้านบาท)

เคซีย์ เดรเยอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายอวกาศประจำศูนย์ที่เมืองแพซาดีนาในรัฐแคลิฟอร์เนีย ขององค์กรแพลนเนตทารี โซไซตี (Planetary Society) ซึ่งส่งเสริมการสำรวจอวกาศ ระบุว่า การตัดงบประมาณที่อาจจะเกิดขึ้น จะสะท้อนถึง “วิกฤตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่โครงการอวกาศของสหรัฐฯ จะต้องเผชิญ”

ก่อนหน้านี้ นาซาระบุว่าได้เสนอของบประมาณในภาพรวมลดลงเกือบ 1 ใน 4 โดย “ปรับหน่วยงานต่าง ๆ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ของนาซา) ให้สอดคล้องกับภารกิจที่จำเป็นสำหรับการสำรวจดวงจันทร์และดาวอังคาร”

ดร.อดัม เบเกอร์ นักวิเคราะห์ด้านอวกาศแห่งมหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ (Cranfield University) บอกกับบีบีซีนิวส์ว่า หากข้อเสนอนี้ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส มันจะเป็นการเปลี่ยนขอบเขตการให้ความสำคัญของนาซาโดยพื้นฐาน

“ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังปรับวัตถุประสงค์ของนาซาใหม่เพื่อ 2 ภารกิจคือ การส่งนักบินอวกาศไปยืนบนดวงจันทร์ให้ได้ก่อนจีน และเพื่อให้นักบินอวกาศไปปักธงสหรัฐฯ บนดาวอังคาร สิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญรองลงไป”

The Earth from space.

ที่มาของภาพ, NASA

คำบรรยายภาพ, หลายภารกิจในการติดตามสภาพสิ่งแวดล้อมของโลกอาจยุติลง

กลุ่มผู้ที่สนับสนุนข้อเสนอนี้มองว่า ทำเนียบขาวให้งบประมาณกับนาซาโดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับจากที่ยานอะพอลโลเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ในทศวรรษที่ 1960–1970 ที่ขณะนั้นมีเป้าหมายเพื่อต้องการเอาชนะสหภาพโซเวียตในภารกิจบนดวงจันทร์ นักวิจารณ์ของนาซากล่าวว่า นับจากนั้นองค์การอวกาศแห่งนี้ก็กลายเป็นระบบราชการที่ใหญ่โตเทอะทะและไม่มีจุดมุ่งหมายชัดเจน ซึ่งมักใช้งบประมาณเกินตัวในภารกิจอวกาศต่าง ๆ และใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างสิ้นเปลือง

ตัวอย่างร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งคือ โครงการจรวดลำใหม่ของนาซาที่มีแผนเพื่อใช้ส่งนักบินอวกาศชาวอเมริกันไปดวงจันทร์อีกครั้ง จรวดลำนี้ชื่อว่า “สเปซลอนช์ซิสเตม” (Space Launch System) ซึ่งพัฒนาล่าช้ากว่ากำหนด และค่าใช้จ่ายสูง โดยต้องใช้เงิน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.34 แสนล้านบาท) ในการปล่อยจรวดแต่ละครั้ง ซึ่งในขณะเดียวกัน มีการประเมินว่าระบบจรวดที่เทียบเท่ากันของบริษัทสเปซเอ็กซ์ที่ชื่อ “สตาร์ชิป” (Starship) ใช้เงินราว 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.28 พันล้านบาท) ต่อการปล่อยหนึ่งครั้ง เพราะถูกออกแบบให้สามารถใช้ซ้ำได้ นอกจากนี้บริษัทด้านอวกาศอีกแห่งคือ บลู ออริจิน (Blue Origin) ของ เจฟฟ์ เบซอส ก็ให้คำมั่นสัญญาถึงการประหยัดเงินที่คล้ายคลึงกันในการนำเสนอจรวด “นิวเกล็นน์” ของบริษัท

ไม่น่าแปลกใจที่ “สเปซลอนช์ซิสเตม” จะถูกตัดออกในข้อเสนอของทำเนียบขาว ด้วยความหวังว่าจะใช้จรวด “สตาร์ชิป” และ “นิวเกล็นน์” มาแทนที่ได้ แต่ที่ผ่านมาการทดลองปล่อยจรวดสตาร์ชิปสามครั้งไม่เป็นผลสำเร็จ ขณะที่บริษัทบลู ออริจิน เอง ก็เพิ่งเริ่มการทดสอบจรวดสำหรับส่งไปดวงจันทร์เมื่อไม่นานมานี้

“ข้อกังวลก็คือนาซาอาจจะกำลังกระโดดออกจากกระทะที่กำลังเผาไหม้ ไปลงบนกองไฟ” ดร.บาร์เบอร์ กล่าว

“การพัฒนาทางเลือกต่าง ๆ มาทดแทนสเปซลอนช์ซิสเตม กำลังได้รับเงินทุนสนับสนุนจากอีลอน มัสก์ และเจฟฟ์ เบซอส”

“หากพวกเขาหมดความกระหายในความพยายามนี้ และสเปซเอ็กซ์ หรือบลู ออริจิน บอกว่าต้องการเงินเพิ่มเพื่อพัฒนาระบบของพวกเขา สภาคองเกรสก็จะต้องให้เงินกับพวกเขา” ดร.บาร์เบอร์ ระบุ

หรือที่น่ากังวลไปกว่านั้น ดร.บาร์เบอร์ วิเคราะห์ว่าอาจส่งผลต่อการสูญเสีย 40 ภารกิจในการสำรวจดาวเคราะห์อื่น ๆ และการติดตามผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกจากอวกาศ ซึ่งหลายโครงการอาศัยความร่วมมือกับพันธมิตรนานาประเทศ

“ผมว่ามันน่าเศร้ามากนะ ที่สิ่งที่ใช้เวลาสร้างมาอย่างยาวนานอาจถูกทำลายลงด้วยลูกเหล็กลูกเดียวอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีแผนในการสร้างมันใหม่หลังจากนั้น”

โครงการต่าง ๆ ที่อาจถูกตัดประกอบด้วยหลายสิบภารกิจเกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่อยู่บนอวกาศแล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและส่งยานขึ้นสู่อวกาศส่วนใหญ่ถูกจ่ายไปแล้ว โดยมีการประหยัดต้นทุนการดําเนินงานค่อนข้างน้อย

A rocket launches from Earth

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, สเปซเอ็กซ์เป็นพันธมิตรกับนาซาในช่วงเวลาที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ความร่วมมือกับองค์การอวกาศยุโรป (European Space Agency) ยังมีอีก 2 โครงการที่ตกอยู่ในความเสี่ยงคือ โครงการที่มุ่งหมายจะนำหินจากดาวอังคารที่ยานสำรวจเพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ของนาซาเก็บไว้กลับสู่โลก และภารกิจที่จะส่งยานสำรวจพื้นผิวโรซาลินด์ แฟรงคลิน (Rosalind Franklin) ไปยังดาวเคราะห์สีแดงเพื่อค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตในอดีต

ศาสตราจารย์ เซอร์ มาร์ติน สวีทติง ประธานบริษัท เซอร์เรย์ แซทเทิลไลท์ เทคโนโลยี จำกัด บริษัทด้านอวกาศของสหราชอาญาจักร และผู้ร่วมเขียนรายงานของราชสมาคม (Royal Society) เกี่ยวกับอนาคตของอวกาศ ระบุว่า แม้โครงการพัฒนาดังกล่าวจะ “ไม่ได้รับการต้อนรับนัก” แต่ก็อาจจะมีข้อดีสำหรับยุโรป เนื่องจากยุโรปเข้ามารับผิดชอบมากขึ้นในโครงการสำรวจอวกาศของตนเอง

“บางทีเราอาจจะพึ่งพานาซามากเกินไปในการให้เป็นผู้เล่นหลักที่แบdหน้าที่สำคัญในอวกาศ” เขาบอกกับบีบีซีนิวส์

“มันคือโอกาสในการพิจารณาว่ายุโรปจะสร้างความสมดุลในกิจกรรมอวกาศต่าง ๆ ให้ดีขึ้นได้อย่างไร”

ทว่าในระยะสั้นยุโรปจะต้องเผชิญกับข้อเสียมากกว่า เพราะในการจะส่งตัวอย่างจากดาวอังคารและส่งยานอวกาศกลับโลก องค์การอวกาศยุโรปเสี่ยงที่เข้าถึงสถานีอวกาศนานาชาติได้น้อยลงหากสถานีอวกาศดังกล่าวถูกยกเลิก และการตัดงบประมาณในนาซาก็ส่งผลต่อการความร่วมมือของนาซาในลูนาร์เกตเวย์ (Lunar Gateway) สถานีอวกาศนานาชาติที่ถูกวางแผนให้โคจรรอบดวงจันทร์

Nasa's SLS rocket lying horizontally and on supports and being wheeled into an enclosure. The rocket appears gigantic in compariosn to engineers sitting alongside the vehicle.

ที่มาของภาพ, NASA

คำบรรยายภาพ, โครงการจรวดไปดวงจันทร์ “สเปซลอนช์ซิสเตม” ของนาซาที่ล่าช้าและใช้งบประมาณเกินกำหนด อยู่ในรายชื่อที่จะถูกยกเลิกและทดแทนด้วยทางเลือกอื่น ๆ ที่ภาคเอกชนพัฒนา

ในกลยุทธ์ขององค์การอวกาศยุโรปที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่า พวกเขา “จะพยายามสร้างขีดความสามารถด้านอวกาศที่เป็นอิสระมากขึ้น และจะยังคงเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ แข็งแกร่ง และเป็นที่ต้องการต่อองค์การอวกาศต่าง ๆ ทั่วโลก” ซึ่งมีนัยว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้นแม้นาซาจะร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม

ด้าน ดร.เบเกอร์ เปิดเผยว่า โครงการสังเกตการณ์โลกหลายโครงการในปัจจุบัน ทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและมีแผนที่จะทำ ก็กำลังเผชิญกับการถูกตัดเงินทุนเช่นกัน

“โครงการสังเกตโลกเหล่านี้จะเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า (canary in the coal mine) ของพวกเรา” เขาบอกกับบีบีซีนิวส์

“ความสามารถของเราในการคาดการณ์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและลดความรุนแรงของมันอาจจะลดลงอย่างมาก หากเราปิดระบบเตือนภัยล่วงหน้านี้ ซึ่งจะเป็นฉากทัศน์ของอนาคตที่น่าหวาดหวั่น”

ข้อเสนอด้านงบประมาณดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส เคซีย์ เดรเยอร์ แห่งองค์กรแพลนเนตทารี โซไซตี บอกกับบีบีซีนิวส์ว่า ผู้แทนจากพรรครีพับลิกันหลายคนได้บอกกับบรรดานายหน้าเป็นการส่วนตัวว่าพวกเขากำลังจะโหวตคว่ำข้อเสนอตัดงบประมาณ

แต่เดรเยอร์ก็กังวลว่า ความขัดแย้งทางการเมืองจะทำให้หาข้อตกลงในเรื่องงบประมาณไม่ได้ ซึ่งเขามองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นสูง และมีแนวโน้มที่ข้อเสนอการลดงบประมาณของทำเนียบขาวจะถูกนำมาใช้เป็นมาตรการชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้ถอยกลับลำบาก เพราะหากภารกิจบนอวกาศถูกยุติลงแล้ว การจะกลับมาเริ่มภารกิจใหม่นั้นเป็นเรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย