ทำไมเด็ก ๆ ทั่วโลกสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น และมันมีอันตรายร้ายแรงแค่ไหน ?
ที่มาของภาพ, Getty Images
- Author, ลูอิส บาร์รูโช
- Role, บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกได้ออกกฎหมายจำกัดควบคุมการสูบบุหรี่ไฟฟ้า (e-cigarette) เนื่องจากมันกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นที่นิยมเรียกบุหรี่ชนิดกันนี้ว่า “เวป” (vape) หรือ “พอด” (pod)
เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้ามักมาในรูปของบรรจุภัณฑ์ที่มีสีสันสวยงาม ทั้งยังมีรสชาติที่หลากหลายให้เลือกถึงกว่า 16,000 แบบ องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงออกมาเตือนว่า อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในหมู่เด็กและเยาวชนนั้น ถึงกับมาแรงแซงหน้ากลุ่มผู้ใหญ่ไปไกลในหลายประเทศ
สหราชอาณาจักรเป็นประเทศล่าสุดที่ออกกฎหมายใหม่ เพื่อห้ามการขายหรือการเป็นธุระจัดหาบุหรี่ไฟฟ้าทั่วประเทศ โดยเริ่มบังคับใช้กฎนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นมา เจ้าของร้านค้าที่ละเมิดบทบัญญัติดังกล่าว จะถูกปรับเป็นวงเงินที่ไม่จำกัดจำนวน รวมทั้งอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี หากกระทำผิดซ้ำซาก
รัฐบาลสหราชอาณาจักรหวังว่า กฎหมายใหม่จะช่วยจำกัดการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลดปัจจัยทำลายสิ่งแวดล้อม และช่วยแก้ปัญหาเด็กติดบุหรี่ไฟฟ้าได้อีกด้วย
บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายแค่ไหน
แม้ผลการศึกษาในอดีตจะชี้ว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิมมาก เนื่องจากบุหรี่แบบเก่านั้นมีส่วนผสมของยาสูบ น้ำมันดิน รวมทั้งสารเคมีที่เป็นพิษและก่อมะเร็งหลายชนิด ทว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเองก็ส่งผลเสียในระยะยาวต่อปอด หัวใจ และสมอง จนผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายคนแนะนำว่า คนทั่วไปไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้า เว้นแต่จะใช้เป็นตัวช่วยในการเลิกบุหรี่ของคนวัยผู้ใหญ่เท่านั้น
ไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีปะปนอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งมักจะรวมถึงสารเสพติดอย่างนิโคติน (nicotine) “บุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพ ในการเลิกบุหรี่ของคนวัยผู้ใหญ่ แต่เราได้ย้ำเตือนอย่างชัดเจนตลอดมาว่า เด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน ไม่ควรริอ่านไปทดลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าเลย” แถลงการณ์ของกระทรวงสุขภาพและการดูแลสังคมแห่งสหราชอาณาจักรระบุ
แม้ปัจจุบันนักวิจัยจะบอกว่า เรายังคงต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกมาก เพื่อทำความเข้าใจถึงผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าให้ได้อย่างสมบูรณ์รอบด้าน แต่เมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2023 องค์การอนามัยโลกกลับออกคำเตือนว่า ได้พบ “หลักฐานที่น่าตกใจ” เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า
ส่วนผลวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2020 ของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์เมโทรพอลิแทน (MMU) ของอังกฤษ พบว่า “บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อสุขภาพเหมือนกับบุหรี่แบบดั้งเดิม ทั้งในเรื่องการทำงานของปอด รวมทั้งการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด” ทีมผู้วิจัยยังกล่าวเตือนเหมือนกับองค์การอนามัยโลกว่า “บุหรี่ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ก็สามารถกระตุ้นให้พฤติกรรมการสูบบุหรี่เพิ่มสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เยาวชนคนหนุ่มสาว”
เมื่อเดือน ก.พ. ของปีนี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ประกาศเริ่มดำเนินโครงการวิจัยมูลค่า 62 ล้านปอนด์ เพื่อติดตามศึกษาเด็กและเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุ 8-18 ปี จำนวน 100,000 คน โดยจะติดตามดูความเปลี่ยนแปลงและผลกระทบต่อสุขภาพเป็นเวลานานกว่า 10 ปี เพื่อทำความเข้าใจถึงอันตรายและความเสี่ยงที่มากับบุหรี่ไฟฟ้าให้ดีขึ้น
ดร.เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวไว้เมื่อปี 2024 ว่า “เด็กถูกดึงตัวและล่อลวงให้ติดกับของผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขาอาจเสพติดนิโคตินด้วย ผมจึงขอให้ประเทศต่าง ๆ เร่งออกมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสูบบุหรี่ไฟฟ้า และเพื่อปกป้องพลเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กกับคนหนุ่มสาว”
ที่มาของภาพ, Peter Dazeley/ Getty Creative
บุหรี่ไฟฟ้ากับผลกระทบต่อเยาวชน
ดร.รูดิเกอร์ เครช ผู้อำนวยการด้านการส่งเสริมสุขภาพขององค์การอนามัยโลก บอกว่าผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่มีเจตนาจะมุ่งเป้าเจาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ผ่านการตลาดที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์และบรรดาอินฟลูเอนเซอร์โดยเฉพาะ บุหรี่ไฟฟ้าบางยี่ห้อมีรูปตัวการ์ตูน ทั้งยังออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจคนหนุ่มสาวเป็นพิเศษด้วย “มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นเด็กและเยาวชนอย่างน่าตกใจ โดยอัตราการเพิ่มขึ้นนี้แซงหน้ากลุ่มผู้ใหญ่ในหลายประเทศ” ดร.เครซ กล่าวเมื่อปี 2023
ด้านแพทย์หญิงแจเกอลีน ชอลซ์ นักหทัยวิทยาและหัวหน้าคลินิกเลิกบุหรี่ จากสถาบันหัวใจอินคอร์ (InCor) ของประเทศบราซิล กล่าวแสดงความเห็นด้วยว่า “ฉันเจอคนไข้อายุน้อยราว 16-24 ปี เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในคลินิกของตัวเอง คนเหล่านี้สูบบุหรี่ไฟฟ้า แต่มีระดับนิโคตินในร่างกายสูงเท่าคนที่สูบบุหรี่จัดถึงวันละกว่า 20 มวน”
พญ.ชอลซ์ยังบอกว่า ก่อนหน้านี้การสูบบุหรี่ไม่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นบราซิล แต่ทัศนคติของพวกเขากลับเปลี่ยนไป เมื่อมีการคิดค้นบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้เธอเชื่อว่าอีกไม่นาน ผลเสียต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะกลายเป็น “โรคระบาด” อย่างแน่นอน เธอจึงเริ่มรณรงค์ให้ภาครัฐสั่งห้ามหรือแบนการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิง “บุหรี่ไฟฟ้าก็คือบุหรี่แบบดั้งเดิมที่แปลงร่างใหม่ แต่ถูกออกแบบมาให้ขายดีกว่าเก่าและทำให้คนเสพติดกันต่อไป แถมยังมีอันตรายเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย”
องค์การอนามัยโลกระบุว่า แม้แต่การได้เห็นโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ ก็สามารถเพิ่มความโน้มเอียงที่คนผู้นั้นจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นได้แล้ว ซึ่งนานวันไปจะกลายเป็นพฤติกรรมการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิมไปในที่สุด “งานวิจัยหลายชิ้นพิสูจน์ให้เห็นตรงกันว่า คนหนุ่มสาวที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีแนวโน้มสูงกว่าคนทั่วไปเกือบ 3 เท่า ที่จะหันไปสูบบุหรี่แบบดั้งเดิมในภายหลัง”
องค์การอนามัยโลกยังประมาณการว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 8 ล้านคน จากการใช้ยาสูบในแต่ละปี เนื่องจากสารนิโคตินในยาสูบทำให้เสพติดได้อย่างรุนแรง ทั้งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคทางเดินหายใจ โรคมะเร็งกว่า 20 ชนิด รวมทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด และกลุ่มอาการที่ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมอื่น ๆ
อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าว่าอย่างไร
จอห์น ดูนน์ ผู้อำนวยการใหญ่ของสมาคมอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าแห่งสหราชอาณาจักร (UKVIA) เชื่อว่าการออกกฎควบคุมที่จะประสบความสำเร็จและดีต่อทุกฝ่ายนั้น จะต้อง “อยู่ในจุดสมดุลที่ถูกต้องเหมาะสม” โดยเขาชี้แจงต่อบีบีซีดังนี้
“หลักฐานได้ปรากฏชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่แบบเก่า ทั้งยังเป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพที่ช่วยให้คนเลิกบุหรี่ได้ด้วย โดยมีบทบาทสำคัญในการลดอัตราการสูบบุหรี่ให้ต่ำลงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งรสชาติต่าง ๆ ที่หลากหลายของบุหรี่ไฟฟ้านั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จนี้”
“ดังนั้นทัศนะที่ว่า การปรุงแต่งรสชาติของบุหรี่ไฟฟ้ามีไว้เพียงเพื่อดึงดูดใจเด็ก ๆ จึงมองข้ามหลักฐานยืนยันที่มีอยู่ไปอย่างสิ้นเชิง ผลสำรวจของเราพบว่า ผู้ใหญ่ชื่นชอบรสผลไม้กันอย่างล้นหลาม ส่วน 2 ใน 3 ของคนที่สูบบุหรี่แบบดั้งเดิมมาก่อน ไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้และหันกลับไปสูบอีก เมื่อรสชาติต่าง ๆ ในบุหรี่ไฟฟ้าถูกขจัดออกไป”
“คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมแวดวงอุตสาหกรรมผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย จึงผลักดันอย่างต่อเนื่องให้ภาครัฐบังคับใช้กฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งรวมถึงการห้ามใช้บรรจุภัณฑ์และการตั้งชื่อรสชาติที่ไม่เหมาะสม”
“หากเราต้องการให้ความฝันเรื่องโลกปลอดบุหรี่เป็นจริง เราต้องสร้างสมดุลให้อยู่ในจุดที่ถูกต้องเหมาะสม นั่นคือป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชน แต่รักษาองค์ประกอบสำคัญอย่างเช่นรสชาติเอาไว้ เพื่อให้การใช้บุหรี่ไฟฟ้ารักษาการติดบุหรี่แบบดั้งเดิมในคนวัยผู้ใหญ่อย่างได้ผล”
กฎหมายว่าด้วยบุหรี่ไฟฟ้าของทั่วโลกเป็นอย่างไร
รายงานขององค์การอนามัยโลกในปี 2024 ระบุว่า มี 34 ประเทศที่ห้ามการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิง บางประเทศห้ามเพียงการขายและจัดส่งบุหรี่ไฟฟ้า แต่ในบางประเทศห้ามการสูบในที่สาธารณะด้วย
บางประเทศอย่างเช่นออสเตรเลีย กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง สามารถวางจำหน่ายได้เฉพาะในร้านขายยาเท่านั้น ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะมีนิโคตินเป็นส่วนประกอบหรือไม่ก็ตาม
แต่ถึงกระนั้น องค์การอนามัยโลกพบว่ายังมีถึง 88 ประเทศ ที่ไม่ได้กำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า และอีก 74 ประเทศ ไม่มีข้อกำหนดใด ๆ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าเลย
สหภาพยุโรปหรืออียูได้แก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาสูบ (Tobacco Products Directive) ของตนเอง เมื่อปี 2014 โดยใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงการกำหนดเกณฑ์อายุของผู้สูบ ข้อจำกัดในการโฆษณา และข้อจำกัดในการปรุงแต่งรสชาติ
อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดดังกล่าวของอียูมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันในแต่ละชาติสมาชิก ฝรั่งเศสและเบลเยียมต่างสั่งแบนบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งในปีนี้ ในขณะที่กรีซอนุญาตให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในกรณีทั่วไปได้ ถึงขั้นสามารถมีพนักงานส่งเสริมการขายในร้านที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะ แต่ก็ยังมีข้อห้ามอยู่บางประการ
ส่วนที่สหรัฐฯ ผู้ซื้ออุปกรณ์การสูบและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป จึงจะสามารถซื้อจากร้านค้าปลีกที่ไม่ได้จำหน่ายบุหรี่โดยเฉพาะได้
บุหรี่ไฟฟ้าทำลายสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร
ผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สหราชอาณาจักรสั่งห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง (disposable vape) เนื่องจากข้อมูลสถิติของกระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบท (Defra) ในปี 2023 ชี้ว่ามีผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถึง 5 ล้านชิ้น ถูกทิ้งลงถังขยะในแต่ละสัปดาห์
บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีแผงวงจรเล็ก ๆ เช่นเดียวกับที่มีในแบตเตอรีชนิดลิเทียม-ไอออน หากถูกทิ้งเป็นขยะโดยไม่มีการจัดการที่เหมาะสม สารพิษอย่างเช่นโคบอลต์และทองแดงอาจรั่วไหลปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม จนส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าและผู้คนได้
แม้ว่าแร่ธาตุในอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าอย่างลิเทียมนั้น สามารถนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อผลิตสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีสีเขียว อย่างเช่นกังหันลมผลิตไฟฟ้าหรือแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าได้ แต่การรีไซเคิลบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งนั้นทำได้ยากมาก เพราะขนาดที่เล็กและดีไซน์ที่ซับซ้อน ทำให้การถอดชิ้นส่วนแทบจะเป็นไปไม่ได้
ด้านสมาคมองค์การปกครองท้องถิ่น (LGA) ของสหราชอาณาจักร ได้ออกมาเตือนว่า “การสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง ก่อให้เกิดอันตรายกับการจัดเก็บขยะและของเสีย ทั้งยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ในรถขยะได้อีกด้วย”
นอกจากนี้ การตั้งโรงงานรีไซเคิลบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งยังเป็นเรื่องยากสำหรับสหราชอาณาจักร เพราะการมีบุหรี่ไฟฟ้าหลากหลายแบบและขนาดวางจำหน่ายในท้องตลาด ทำให้การพัฒนากระบวนการรีไซเคิลที่เป็นมาตรฐานทำได้ยาก
มีเด็กและผู้ใหญ่กี่คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า
มีรายงานว่าประชากรโลกราว 82 ล้านคน สูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ชนิดที่ให้ความร้อนแต่ไม่ได้เผาไหม้ยาสูบ (heat-not-burn tobacco products)
ส่วนรายงานล่าสุดของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ในปี 2024 ระบุว่ามีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายทั่วประเทศ 1.63 ล้านคน สูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็น 5.9% ของทั้งหมด ส่วนที่สหราชอาณาจักร สถิติในปี 2024 จากการสำรวจขององค์กรการกุศล ASH พบว่าเด็กวัย 11-17 ปี ราว 980,000 คน สูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็น 18% ของทั้งหมด
ผลการสำรวจล่าสุดยังพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้ายังเพิ่มขึ้น ในหมู่ชาวอังกฤษทุกกลุ่มวัยที่มีอายุมากกว่า 16 ปี ซึ่งโดยรวมแล้วมีคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด 5.1 ล้านคน ในปี 2023
สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (ONS) รายงานว่า 5.9% ของคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำทุกวันในปี 2023 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย ส่วนอีก 3.9% สูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้างในบางโอกาสเท่านั้น
รายงานขององค์การอนามัยโลกยังประมาณการว่า เด็กอายุ 13-15 ปี อย่างน้อย 37 ล้านคนทั่วโลก สูบบุหรี่หรือยาสูบในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งรวมถึงบุหรี่มวนแบบดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควัน และบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.bbc.com/thai/articles/cm2k2l77777o&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw03pmQnYqbBk0eSkGP4LVzO