มองไปทางไหน? หรือหันไปทางใด? ก็มีแต่เรื่องราวที่คอยบั่นทอนความเชื่อมั่นในการลงทุนเยอะแยะไปหมด และที่น่าเป็นห่วงก็คือ “อิสราเอล” เปิดฉากถล่ม “อิหร่าน” แบบนี้ สถานการณ์ต่าง ๆ ย่อมเลวร้ายลงไปอีกอย่างแน่นอน เพราะในช่วงที่ผ่านมามีการแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจนว่า ใครอยู่ข้างใคร? จึงเชื่อได้ทันทีว่า ในอนาคตจะมีปฏิบัติการเอาคืนอย่างแสบสันไงล่ะคะ

เมื่อทั่วโลกกำลังลุกเป็นไฟด้วยสงครามความขัดแย้ง “โมนิก้า” ก็รู้ได้ทันทีว่า เศรษฐกิจโลกก็คงพังพาบไม่เป็นท่าอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผนวกกับปัญหาเทรดวอร์ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข เดี๊ยนเลยมองไม่เห็นหนทางที่ตลาดหุ้นไทยจะบวกสวนอย่างแข็งแกร่ง เพราะสิ่งที่คนในตลาดหุ้นรับรู้อยู่เต็มอกก็คือ สภาพของตลาดหุ้นไทยยังเปราะบางเหมือนเดิม จึงไม่มีอะไรไปสู้กับแรงขายต่างชาติได้พะยะค่ะ

งานนี้อีฉันบอกได้เลยว่า ระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอาจพอจะประคองตัวได้ เพราะยังมีหุ้นบางกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากปัญหาสงครามที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่ง แต่ถ้าดูภาพการลงทุนในระยะยาวจะเห็นว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเป็นแรงกดทับสภาพเศรษฐกิจให้ย่ำแย่ลงไปอีก “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 1,122.70 จุด ลบไป 5.92 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.23 หมื่นล้านบาท มันเข้ากับสถานการณ์จริงไหมจ๊ะ

ที่สำคัญคือหุ้นหลายตัวที่ช่วยพยุงตลาดเมื่อวันศุกร์มีแค่พวกโรงกลั่น ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นยังมีแรงขายไหลออกมาไม่หยุดหย่อนแบบนี้..เดี๊ยนขอถามหน่อยเถอะว่า มันน่าสบายใจตรงไหน? เพราะสิ่งที่นักลงทุนกำลังกังวลคือ รายได้และกำไรในครึ่งปีหลังมีโอกาสทรุดหนักกว่าเดิม หลังบรรยากาศทั่วโลกไม่เอื้อต่อการค้าขาย ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจไม่หมุนเวียนเหมือก่อนหน้านี้ไงล่ะคะ

โดยหุ้นอีกหนึ่งที่เป็นตัววัดเม็ดเงินทางเศรษฐกิจได้ดีก็คือ AWC ซึ่งทำธุรกิจโรงแรมตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ก็ถูกรินขายแบบมาราธอน จนล่าสุดลงมาทำ all time low ด้วยการยืนปิดที่ระดับ 1.80 บาท ลบไป 0.09 บาท หรือลงไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ธุรกิจท่องเที่ยวมีประสบปัญหาจริง ๆ และถ้าเราเชื่อว่า ราคาหุ้นเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทุกคนก็คงเข้าใจว่า เรากำลังจะเจออะไรนะจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นเชื่อมโยงกับหุ้นสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง AAV อย่างมีนัยสำคัญ และการอ่อนตัวต่อเนื่องของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ย่อมเป็นสัญญาณที่ย้ำให้ทุกคนรู้ว่า สถานการณ์ของธุรกิจสายการบินจะระส่ำขึ้นอีกอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้มีทั้งสงคราม เศรษฐกิจก็ไม่ดี แถมยังมีความขัดแย้งระหว่างประเทศเข้ามาซ้ำอีกดอก “โมนิก้า” เลยสงสัยว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.10 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 71 ล้านบาท ไม่ใช่ก้นเหวนะซี

ขนาดหุ้น SAWAD พยายามชี้แจงว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากการแห่คืนใบอนุญาตพิโกไฟแนนซ์ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับบริษัท แต่แรงขายก็ยังมีออกมาเป็นระลอก จนสุดท้ายหุ้นยืนปิดที่ระดับ 16 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 425 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่บีบให้นักลงทุนเลือกขายหุ้นมากกว่าแทงสวน เพราะตอนนี้โลกมีแต่ความวุ่นวายเจ้าค่ะ

ส่วนรายที่ทำท่าเหมือนจะไม่มีอะไร แต่สุดท้ายก็เหมือนจะมีแอคซิเดน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น THCOM เพื่อชี้ให้เห็นการทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 7.70 บาท ลบไป 0.65 บาท หรือลงไป 7.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาท และเป็นการทิ้งตัวจากฐาน 8.30 บาทที่ย่ำเป็นเวลา 2 สัปดาห์แบบนี้…เดี๊ยนถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติอย่างแน่นอน จึงขอแนะนำให้นักเล่นอยู่ห่าง ๆ ไปก่อนจะดีกว่านะจ๊ะ

โมนิก้าและทีมงาน