นิด้าโพล เผย ประชาชน มอง กรณีปมชั้น 14 จะส่งผลมาก ต่อความอยู่รอดของรัฐบาลแพทองธาร ไม่เชื่อ กล้ายึด “มท.-เกษตร” จากภูมิใจไทย-กล้าธรรม
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “กล้าไหม ยึดมหาดไทยและเกษตร และกรณีปมชั้น 14” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกรณีปมชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงการส่งผลต่อความอยู่รอดของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร จากกรณีปมชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 29.62 ระบุว่า จะส่งผลมาก ต่อความอยู่รอดของรัฐบาลฯ รองลงมา ร้อยละ 29.31 ระบุว่า ค่อนข้างส่งผล ต่อความอยู่รอดของรัฐบาลฯ ร้อยละ 24.58 ระบุว่า ไม่ส่งผลใด ๆ เลย ต่อความอยู่รอดของรัฐบาลฯ ร้อยละ 15.73 ระบุว่า ไม่ค่อยส่งผล ต่อความอยู่รอดของรัฐบาลฯ และร้อยละ 0.76 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับความสำคัญของผลการประชุมแพทยสภา ในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 จากกรณีการลงโทษแพทย์ 3 คน ปมชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจต่อสถานการณ์ทางการเมืองไทยหลังจากนี้ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.27 ระบุว่า ค่อนข้างมีความสำคัญ รองลงมา ร้อยละ 26.72 ระบุว่า มีความสำคัญมาก ร้อยละ 21.37 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความสำคัญร้อยละ 16.11 ระบุว่า ไม่มีความสำคัญเลย และร้อยละ 1.53 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความเชื่อมั่นต่อการทำงานของแพทยสภาในการกำกับดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมปฏิบัติตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.40 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น ร้อยละ 15.95 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 14.20 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก และร้อยละ 0.61 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความเชื่อของประชาชนต่อนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ว่าจะกล้ายึดกระทรวงมหาดไทย มาจากพรรคภูมิใจไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.12 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 32.06 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 18.24 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 13.82 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 1.76 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามความเชื่อของประชาชนต่อนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ว่าจะกล้ายึดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาจากพรรคกล้าธรรม พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 35.73 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 29.69 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 20.07 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 11.91 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.70 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.79 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.28 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.82 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.86 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก โดยตัวอย่าง ร้อยละ 47.94 เป็นเพศชาย และร้อยละ 52.06 เป็นเพศหญิง
ตัวอย่าง ร้อยละ 12.13 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.79 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 17.94 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.34 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 25.80 อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยตัวอย่าง ร้อยละ 96.49 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.82 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.69 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ
ตัวอย่าง ร้อยละ 34.12 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.36 สมรส และร้อยละ 2.52 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ โดยตัวอย่าง ร้อยละ 0.53 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 17.40 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 34.50 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 10.15 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 33.44 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 3.98 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
ตัวอย่าง ร้อยละ 10.31 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 17.86 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 21.21 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 10.69 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 14.89 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.62 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.42 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
ตัวอย่าง ร้อยละ 20.15 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 3.28 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 13.98 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 33.66 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 12.21 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.80 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 2.52 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 1.68 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.46 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท ร้อยละ 0.23 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ร้อยละ 0.53 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 5.50 ไม่ระบุรายได้
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thebetter.co.th/news/news/31093&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0SHiTYtRRDwjviQfo64s2O