เกษตรกรสวนมะม่วง ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ช่วยกันแกะผลมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ออกจากถุงกระดาษคาร์บอนอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันผลผลิตเสียหาย หลังกำลังเผชิญปัญหาราคามะม่วงเกรดส่งออกตกต่ำจากปีก่อน มีราคาสูงถึง 50 ถึง 55 บาท ต่อกิโลกรัม
แต่ฤดูกาลนี้มีราคาต่ำสุดเหลือเพียง 15-20 บาท ต่อกิโลกรัม ขณะที่มะม่วงตกเกรดที่ส่งขายในประเทศไทยก็ราคาลดลงจากปีก่อน 7-20 าทต่อกิโลกรัม เหลือเพียง 2-6 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น
สง่า เกษมสุข สมาชิกวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก อ.พร้าว
สง่า เกษมสุข สมาชิกวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก อ.พร้าว
สง่า เกษมสุข สมาชิกวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก อ.พร้าว บอกว่าปีนี้มะม่วงติดผลดีมาก แม้ต้นมะม่วงที่ไม่เคยให้ลูกก็กลับมีผลผลิต แต่เกษตรกรทั่วไปยังขาดความเข้าใจไม่มีการเด็ดมะม่วงตกเกรดทิ้ง นอกจากทำให้ได้ผลผลิตที่สมบูรณ์น้อยยังทำให้ต้นทุนการดูแลสูงขึ้น เมื่อผลผลิตล้นตลาดราคาจึงตกต่ำจนแทบไม่คุ้มที่จะเก็บขาย
อยากฝากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือให้ราคาผลผลิตมะม่วงดีขึ้นกว่านี้ เพราะชาวสวนแต่ละคนแทบจะไม่อยากเก็บผลผลิตแล้ว หากจะเอามะม่วงสุกไปแปรรูปเป็นมะม่วงแผ่นก็เจอปัญหาฝนตกหนักทุกวัน ทำให้แปรรูปไม่ได้ และเกษตรกรก็ไม่มีโรงอบด้วย ปีนี้ถือว่าราคาตกต่ำมากที่สุด เกษตรกรนอกกลุ่มวิสาหกิจที่ต้องไปเชื่อร้านค้าเพื่อนำปุ๋ยยามาบำรุงต้น หากไม่มีรายได้ก็คงจะติดหนี้ติดสินเป็นปัญหาลูกโซ่ส่งต่อไปยังผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเกรดส่งออกอำเภอพร้าว มีสมาชิก 30 ราย มีพื้นที่ปลูกรวม 520 ไร่ เน้นผลิตมะม่วงคุณภาพเพื่อส่งออกไปยังประเทศเกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น เพราะขายได้ราคากว่าการส่งขายในประเทศ แต่การทำมะม่วงคุณภาพก็มีต้นทุนที่สูง ตั้งแต่การใช้ถุงกระดาษคาร์บอนห่อผลผลิต การใช้สารเคมีที่ปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง และ ต้องหมั่นตัดแต่งกิ่ง
กฤษดา ต๊ะใส ผู้จัดการวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก อ.พร้าว
กฤษดา ต๊ะใส ผู้จัดการวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก อ.พร้าว
กฤษดา ต๊ะใส ผู้จัดการวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก อ.พร้าวบอกว่า อีกหนึ่งสาเหตุที่มะม่วงส่งออกราคาตกต่ำ เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้คำสั่งซื้อลดลง รวมไปถึงการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสารตกค้างและแมลงต้องห้ามของประเทศปลายทาง เมื่อราคาขายตกต่ำ ชาวสวนมะม่วงที่มีรายได้เพียงปีละครั้งจึงเดือดร้อนหนัก โดยหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เกษตรกรจะไม่มีเงินทุนในการผลิตปีต่อไป และ เมื่อไม่มีเงินไปชำระหนี้ ก็อาจจะต้องเอาที่ดินไปจำนอง หรือ บางรายก็อาจจะต้องหยุดทำการเกษตร
อยากจะให้หน่วยงานที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาช่วยกระจายสินค้า ช่วยในการรักษาสมดุลของราคาไม่ให้ต่ำไปกว่านี้ อยากให้มะม่วงขายได้ตลอดไม่มีช่วงที่อยู่ชะงัก เพราะว่ามะม่วงที่อยู่บนต้น สุกเพิ่มขึ้นทุกวัน ถ้าแก่เกินไปก็จะขายไม่ได้
ปีนี้มะม่วงน้ำดอกไม้ในภาคเหนือมีปริมาณโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 109,000 ตัน เฉพาะที่ จ.เชียงใหม่มีปริมาณผลผลิต กว่า 2.8 หมื่นตัน
กนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ [ขนาดดั้งเดิม]
กนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ [ขนาดดั้งเดิม]
กนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ปริมาณผลผลิตที่มากกว่าปกติ และ กำลังซื้อที่ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญทำให้มะม่วงราคาตก ไม่เว้นแม้แต่มะม่วงเกรดส่งออกที่นอกจากจะมีคำสั่งซื้อลดลง ยังเจอปัญหาสารเคมีตกค้าง และ แมลงศัตรูพืชซ้ำเติมสถานการณ์ ล่าสุดได้เร่งหาตลาดใหม่ๆ รองรับทั้งโรงงานแปรรูป และ การบริโภคสด พร้อมประสานผู้ส่งออกมะม่วงเข้ามารับซื้อเพิ่มเติม
สำหรับมะม่วงส่งออกมีการประสานเบื้องต้นให้ทางผู้ส่งออกมะม่วงที่เคยรับซื้อมะม่วงในจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ไม่ว่าจะเป็น จ.พิจิตร หรือ พิษณุโลก หากยังมีคำสั่งซื้ออยู่ก็จะเชิญเข้ามาในพื้นที่ เพื่อมาดูผลผลิตแล้วก็ร่วมเจรจากับทางกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูก เพราะมะม่วงส่งออกจะต้องพิจารณาเรื่องของเกรดคุณภาพเป็นสำคัญ ขณะนี้มีผู้ประกอบการแจ้งความประสงค์มาแล้ว 2 ราย
ต้องฝากเกษตรกรที่ทำมะม่วงส่งออก อยากจะให้มีการเข้มงวดหรือให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลผลิต เพราะหากมีสารตกค้าง ก็จะมีปัญหาเป็นผลลบกลับมายังภาพรวมของประเทศไทย ทำให้เราอาจจะเสียโอกาสทางการตลาดไป ซึ่งตลาดต่างประเทศที่ส่งออกสำคัญของเราก็จะมีประเทศเกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ที่มีความกังวลในเรื่องของคุณภาพเป็นพิเศษ
ไม่เฉพาะมะม่วงแต่ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำยังเกิดขึ้นกับพืชผัก และ พืชไร่อื่นๆทั้ง พริก กระเทียม ข้าว แตงกวา ดอกไม้ รวมทั้ง ลำไยที่ส่อแววล้นตลาดเช่นกัน ทำให้ ส.ส.ในพื้นที่ต้องรวบรวมปัญหาเสนอไปยังคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้ปัญหา
อรพรรณ จันตาเรือง สส.พรรคประชาชน จ.เชียงใหม่
อรพรรณ จันตาเรือง สส.พรรคประชาชน จ.เชียงใหม่
อรพรรณ จันตาเรือง สส.พรรคประชาชน จ.เชียงใหม่ ให้ความเห็นว่า เกษตรกรต่างขึ้นทะเบียนกับเกษตรอำเภอ ภาครัฐจะต้องมีข้อมูลจำนวนเกษตรกร และ ปริมาณผลผลิตคาดการณ์ว่าจะออกช่วงเดือนไหนบ้าง หน่วยงานของรัฐควรต้องหาตลาดรองรับ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทย
หรือ ถ้านอกเหนือจากนั้นจะส่งออกไปต่างประเทศได้เท่าไหร่ จะต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า แต่ปัญหาที่พบคือชาวบ้านต้องเป็นคนหาตลาด หรือ หาพ่อค้ามาซื้อเอง จึงอยากจะเสนอรัฐบาลมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่มีข้อมูลมีการวางแผนล่วงหน้า โดยเฉพาะการลดต้นการผลิต เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้
ก่อนที่จะลงทุนทำเกษตรกร ชาวบ้านต้องไปกู้จากธนาคารมา แต่หากขายไม่ได้ ก็จะไม่มีเงินไปจ่ายคืนให้กับธนาคาร หากใช้การพักหนี้ก็เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ สิ่งที่จะช่วยชาวบ้าน หรือ เกษตรกรได้ก็คือเรื่องต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าปุ๋ย ค่ายา ถ้าลดต้นทุนได้ เกษตรกรก็ไม่ต้องขายในราคาที่สูงแต่ก็สามารถอยู่ได้
รายงาน : พยุงศักดิ์ ศรีวิชัย ผู้สื่อข่าวอาวุโสไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ
อ่านข่าว : เปิดต้นทางมลพิษ! ขั้นตอนการทำเหมืองทุนจีน ทิ้งสารปนเปื้อนแม่กก-แม่สาย-น้ำโขง
คุ้มครองครบ! ครม.เห็นชอบขยายสิทธิ ม.40 เจ็บ-ป่วย-พิการ-ลูกเล็ก
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thaipbs.or.th/news/content/352966&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0GkePs3mjD2a5cbwSWvyni