งบ 1.57 แสนล้านไม่ผ่านง่าย คลังสั่งตีกลับแผนกระตุ้นศก.ไม่ชัดเจน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหน่วยงานภาครัฐจำนวนมากเสนอแผนงานและคำของบประมาณเข้ามาภายใต้กรอบวงเงินรวม 157,000 ล้านบาทจำนวนมาก ตามแผนเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล โดยมีคำขอจัดสรรงบประมาณราว 1 หมื่นโครงการ วงเงินรวมกว่า 4 แสนล้านบาท  โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2568

โดยโครงการที่เสนอเข้ามาครอบคลุมหลายด้าน ครอบคลุมทั้ง การจ้างงาน การส่งเสริมการผลิต การลงทุนของภาครัฐ รวมถึงการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงบประมาณ อยู่ระหว่างกลั่นกรองแผนงานทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อคัดเลือกเฉพาะโครงการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที และส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ก่อนนำเสนอเข้าสู่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายใน มิถุนายน 2568 และเร่งเบิกจ่ายก่อน 30 ก.ย.2568 ซึ่งก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณ และเพื่อให้เกิดผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยเร็ว

สิ่งสำคัญคือโครงการที่จะได้รับการสนับสนุนต้องมีความชัดเจน โปร่งใส และสามารถแสดงผลสัมฤทธิ์ทางเศรษฐกิจได้จริงภายในระยะเวลาจำกัด รัฐบาลต้องการให้การใช้งบประมาณครั้งนี้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและเศรษฐกิจโดยรวม

พร้อมกันนี้  ได้มอบหมายให้หน่วยงานเจ้าของโครงการบางส่วนกลับไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อยืนยันความพร้อม และปรับให้สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงเศรษฐกิจมากขึ้น โดยจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจประชุมอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาคัดเลือกโครงการอย่างรอบคอบ ก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานต่อไป

กระทรวงการคลังยัง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามผลการดำเนินโครงการต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การใช้งบประมาณภายใต้กรอบ 1.57 แสนล้านบาทในครั้งนี้ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลวางไว้