ดีป้า จัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘มาตรฐานยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล dSURE’ กลไกยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย

ดีป้า-จัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ-‘มาตรฐานยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล-dsure’-กลไกยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย
ดีป้า จัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘มาตรฐานยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล dSURE’ กลไกยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย

ไอที

ดีป้า จัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘มาตรฐานยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล dSURE’ กลไกยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย

วันพุธ ที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 12.25 น.

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

ดีป้า จัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ
‘มาตรฐานยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล dSURE’
กลไกยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย

ดีป้า จัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘มาตรฐานยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล dSURE’ แก่เหล่าผู้ประกอบการ กลุ่มชุมชน และเกษตรกรในงานเปิดตัวโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล สมาร์ทลีฟวิ่ง (One Tambon One Digital Smart Living: OTOD Smart Living)
 

​สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า จัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘มาตรฐานยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล dSURE’ ให้กับผู้ประกอบการ กลุ่มชุมชน และเกษตรกร ภายในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล สมาร์ทลีฟวิ่ง (One Tambon One Digital Smart Living: OTOD Smart Living) ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น ซึ่งมีผู้สนใจร่วมรับฟังการบรรยายเป็นจำนวนมาก

ดร.ศุภกร สิทธิไชย ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ดีป้า กล่าวว่า ที่ผ่านมา ดีป้า ได้ดำเนินการในเรื่องของมาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล โดย dSURE คือตราสัญลักษณ์ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล
ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการใช้งาน (Safety) ความสามารถในการทำงาน (Functionality) และความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) และผ่านการขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัล (Thailand Digital Catalog) แหล่งรวบรวมสินค้า/บริการดิจิทัลจากผู้ประกอบการและผู้ให้บริการดิจิทัลสัญชาติไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เป็นไปตามข้อกำหนดด้านมาตรฐาน คุณภาพ ราคาสมเหตุสมผล
 

ดร.ศุภกร กล่าวต่อว่า dSURE จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย อีกทั้งเป็นตราสัญลักษณ์ที่ช่วยการันตีคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโซลูชันมาใช้บริหารจัดการธุรกิจ พร้อมกันนี้ยังเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่นำเทคโนโลยีบนบัญชีบริการดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสูงสุด 200% ขณะเดียวกัน หน่วยงานรัฐสามารถจัดจ้างได้ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงตามระเบียบพัสดุ อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการดิจิทัลสามารถเข้าสู่ตลาดภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสการลงทุนใหม่ ๆ และต่อยอดสู่ตลาดสากล โดยผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.depa.or.th/thailanddigitalcatalog


 

ทั้งนี้ โครงการ OTOD Smart Living มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับทักษะด้านดิจิทัลแก่กลุ่มชุมชนและเกษตรกรทั่วประเทศผ่านการส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเข้าใจและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไม่ว่าจะเป็น กล้องวงจรปิดพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟส่องสว่างอัจฉริยะพลังงานแสงอาทิตย์ แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ โดรนเพื่อการเกษตร เทคโนโลยี IoT การเกษตรอัจฉริยะ และแพลตฟอร์มคาร์บอนด้านการเกษตร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาคเกษตรกรรม โดยนำกลไกการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาปรับใช้ในชุมชนเกษตรที่ถือเป็นกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างทั่วถึง ซึ่งภายในงานมีการจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ ‘OTOD Smart Living : ดิจิทัลของชุมชน เพื่อชีวิตที่ดียิ่งกว่าเดิม’ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญใน 6 เทคโนโลยีร่วมฉายภาพให้เห็นถึงแนวทางการประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนและภาคเกษตรกรรม

สำหรับโครงการ OTOD Smart Living เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการฯ ถึงวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ และมีกำหนดลงพื้นที่เพื่อยกระดับทักษะด้านดิจิทัลแก่กลุ่มชุมชนและเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ในเดือนมิถุนายน – กันยายน 2568 

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.banmuang.co.th/news/it/432272&ct=ga&cd=CAIyHDY2MTU4YTVjYWRlYjI0MDk6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw319Vl73agz7N1LqnLClIge

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *