ยกมาทั้งโรงพัก! ตร.บุกช่วยสาวถูกปืนจี้ กักขัง ผัวเก่าแจ้งขอความช่วยเหลือ สุดท้ายโอละพ่อ | เดลินิวส์

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสิงห์บุรี ต้องวุ่นวายกันยกใหญ่ หลังได้รับแจ้งเหตุจาก นายตั้ม (นามสมมุติ) ว่าภรรยาของตนถูก นายปัณณสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) ใช้ปืนจี้ศีรษะและกักขังไว้ภายในบ้านพักต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี

ทันทีที่ได้รับแจ้ง ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรีได้ส่ง หน่วยควบคุมเหตุพร้อมกำลังติดอาวุธครบมือ ลงพื้นที่ล้อมบ้านเป้าหมายไว้ พร้อมเรียกให้คนในบ้านออกมา แต่ภายในบ้านมีเพียง นางจิราทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายปัณณสิทธิ์ ออกมานอกบ้าน พร้อมยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า “ไม่มีใครอยู่ ฉันอยู่คนเดียว ลูกชายที่นายตั้มกล่าวอ้างว่าเอาปืนจี้ภรรยาเขาอยู่นั้น ไม่เป็นความจริง”

แม้ตำรวจจะยังไม่ปักใจเชื่อในตอนแรก และยังคงเฝ้าระวังพร้อมใช้ยุทธวิธีเข้าตรวจค้นภายในบ้าน ผลสรุปก็คือไม่พบบุคคลใดอยู่ในบ้าน และไม่มีเหตุการณ์การใช้ปืนจี้ตามที่แจ้งมาแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน นายตั้มเองก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับอดีตภรรยา ซึ่งดูเหมือนปลายสายจะไม่ได้ถูกปืนจี้แต่อย่างใด แถมยังบอกให้นายตั้มพาตำรวจกลับไป

นางจิราทิพย์ แม่ของนายปัณณสิทธิ์ เล่าว่า “นายตั้มบอกว่าเมียเขาส่งไลน์มาให้ไปรับเพราะถูกลูกชายฉันเอาปืนจี้กักขังอยู่ในบ้าน แล้วเขาก็พาตำรวจมากันเต็มไปหมด ผลสรุปตำรวจเข้าไปดูมีไหมล่ะ ก็ไม่มี ฉันก็บอกแล้วว่าฉันอยู่คนเดียว”

นางจิราทิพย์ ยังเผยข้อมูลจากฝ่ายหญิงว่า นายตั้ม อดีตสามีมีพฤติกรรมเจ้าชู้และติดผู้หญิงจนต้องหย่าร้างกันไป โดยฝ่ายหญิงไม่เอาสมบัติใดๆ ให้ทั้งหมด เพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษาให้ลูก 2 คน ล่าสุดมีข่าวว่านายตั้มนำรถสิบล้อไปขาย และนำเงินไปให้ผู้หญิงที่ติดพันอยู่ประมาณ 2-3 แสนบาท แต่ตนก็ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่

“ส่วนลูกชายฉันก็ยอมรับว่าคงจะชอบกันกับผู้หญิงนั่นแหละ เพราะเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เขาก็ต้องช่วยเพื่อนใช่ไหม ว่าเพื่อนเขาโดนซ้อมมาแบบนี้ แต่นายตั้มพูดเกินไป ว่าลูกชายฉันเอาปืนจี้ผู้หญิงอยู่ ตำรวจเขาถึงได้มากันเต็มแบบนี้ มันทำให้ฉันเสียชื่อเสียเสียง ฉันจะแจ้งความกลับแน่” นางจิราทิพย์ กล่าว