S&P คงเครดิตไทย BBB+มีเสถียรภาพจ่ายหนี้ จับตาเศรษฐกิจ-การเมือง

s&p-คงเครดิตไทย-bbb+มีเสถียรภาพจ่ายหนี้-จับตาเศรษฐกิจ-การเมือง
S&P คงเครดิตไทย BBB+มีเสถียรภาพจ่ายหนี้ จับตาเศรษฐกิจ-การเมือง

S&P Global Ratings คงอันดับเครดิตประเทศไทยที่ระดับ BBB+ มีเสถียรภาพในการชำระหนี้ ชี้เศรษฐกิจปี 68–69 โตเฉลี่ย 2.3–2.6% หนุนโดยท่องเที่ยว-การลงทุนรัฐ

S&P Global Ratings (S&P) ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ระดับ BBB+ พร้อมมุมมองความน่าเชื่อถือ “มีเสถียรภาพ” (Stable Outlook) โดยให้เหตุผลสนับสนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ความแข็งแกร่งของภาคการเงินต่างประเทศ และการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะในโครงการ EEC

นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า รายงานของ S&P ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568–2569 คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 2.3% และ 2.6% ตามลำดับ โดยมีแรงหนุนหลักจากภาคการท่องเที่ยว และโครงการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐาน

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากภายนอก โดยเฉพาะนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจกดดันการส่งออกและภาคธุรกิจ ขณะที่รายได้ต่อหัวของไทยคาดว่าจะเพิ่มจาก 7,500 ดอลลาร์ในปี 2567 เป็น 8,100 ดอลลาร์ในปี 2568 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแข็งค่าของเงินบาท

ในด้านภาคการท่องเที่ยว S&P มองว่าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน แม้ไตรมาสแรกของปี 2568 จะชะลอลงเล็กน้อย โดยรัฐยังเดินหน้ามาตรการส่งเสริม เช่น ยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อกระตุ้นการเดินทาง
 

S&P ยังประเมินว่า รัฐบาลไทยจะคงนโยบายการลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และโครงการความร่วมมือรัฐ-เอกชน (PPP) ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาว

ด้านนโยบายการคลัง S&P คาดว่าการขาดดุลงบประมาณในปี 2568 จะอยู่ที่ราว 3.3% ของ GDP โดยรัฐบาลมีแผนใช้งบจากโครงการ Digital Wallet วงเงิน 157,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและรองรับความเสี่ยงจากการค้าโลก

ขณะเดียวกัน ภาคการเงินต่างประเทศของไทยยังคงแข็งแกร่ง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มเกินดุลเฉลี่ยปีละ 1.6% ในช่วงปี 2568–2571 ขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ S&P จะติดตามต่อไป ได้แก่ ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเมื่อเทียบกับประเทศรายได้ใกล้เคียง แนวโน้มการเข้าสู่ดุลการคลัง และเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งมีผลต่อการเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจในระยะยาว

รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ยืนยันเดินหน้าเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านเครดิตของประเทศ พร้อมประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลกับบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่างถูกต้องและทันสมัย รวมถึงผลักดันข้อเสนอแนะของ S&P ไปสู่การปฏิบัติจริงอย่างใกล้ชิด

หมายเหตุ: อันดับเครดิต BBB+ หมายถึงระดับการลงทุน (Investment Grade) ซึ่งบ่งชี้ถึงความสามารถในการชำระหนี้ของประเทศที่อยู่ในระดับมั่นคง แม้จะมีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจหรือการเมืองบางประการที่ต้องติดตาม
 

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.posttoday.com/business/financial/724965&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2OWLJGTiP52uKtzCEzkL94

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *