เหตุใดมหาสมุทรกำลังมีสีเข้มขึ้น

The crescent of a wave is seen crashing over. The wave is dark blue and lighter towards the tip of the wave and there is white spray coming away from the wave. The sky is cloudy.

ที่มาของภาพ, Reuters

คำบรรยายภาพ, การศึกษาพบว่า 21% ของมหาสมุทรในโลกมีสีเข้มมากขึ้น
  • Author, อีเลียต บอล
  • Role, บีบีซีนิวส์

ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาพบว่า มหาสมุทรมากกว่า 1 ใน 5 ของโลกกำลังมีสีเข้มมากขึ้น จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยพลีมัธในสหราชอาณาจักร

กระบวนการนี้เป็นที่รู้จักในชื่อว่า “การเข้มขึ้นของมหาสมุทร” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงบนชั้นบนสุดของมหาสมุทรและทำให้แสงทะลุผ่านน้ำได้ยากขึ้น

ชั้นบนสุดนี้เรียกว่า “โฟติกโซน (photic Zone)” มันเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตในทะเลราว 90% และมีความสำคัญอย่างมากต่อการรักษาสมดุลวัฏจักรชีวธรณีเคมีทั่วโลกให้อยู่ในสภาพที่ดี

งานศึกษาชิ้นนี้เผยแพร่ในวารสารโกลบอล เชนจ์ ไบโอโลจี (Global Change Biology) โดยระบุว่า 21% ของมหาสมุทรทั่วโลกมีสีเข้มมากขึ้นในช่วงปี 2003-2022

ข้อมูลจากงานวิจัยเชื่อว่าสาเหตุที่มหาสมุทรมีสีเข้มขึ้นเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การบานของสาหร่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงในพลวัตการบาน ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวน้ำทะเล

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and continue reading

ได้รับความนิยมสูงสุด

  • Ukrainian President Volodymyr Zelensky shakes hands with the Head of the Security Service (SSU) Vasyl Malyuk, who had reported on the operation against Russian airbases

  • .

  • Yurong Luanna Jiang, dressed in a black and red top with strings of pearls and what appear to be shoulder decorations in gold, looks emotional as she delivers the Graduate English Address during Harvard University's 374th Commencement on 29 May

  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลง 7 ฉบับ ในวาระ 75 ปีความสัมพันธ์ไทย - กัมพูชา เมื่อ 23 เม.ย. 2568

End of ได้รับความนิยมสูงสุด

เรามักพบเห็นสีเข้มขึ้นในบริเวณชายฝั่งซึ่งน้ำที่อุดมด้วยสารอาหารจะลอยขึ้นมาสู่ผิวน้ำ และฝนที่ตกมากขึ้นจะพัดเอาน้ำที่ไหลบ่าจากพื้นที่ภาคการเกษตรและตะกอนจากแผ่นดินลงไปในน้ำ ส่งผลให้แพลงก์ตอนเติบโตมากขึ้น

ฝนตกหนักรุนแรงกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (climate change)

ในมหาสมุทรเปิดโล่ง สีที่เข้มขึ้นยังมีความเชื่อมโยงกับอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดกั้นแสงที่เพิ่มมากขึ้น

เหตุใดมหาสมุทรมีสีเข้มขึ้น ?

ข้อมูลจากงานวิจัยเชื่อว่าสาเหตุที่มหาสมุทรมีสีเข้มขึ้นเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การบานของสาหร่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงในพลวัตการบาน ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวน้ำทะเล

มักพบเห็นสีเข้มขึ้นในบริเวณชายฝั่งซึ่งน้ำที่อุดมด้วยสารอาหารจะลอยขึ้นมาสู่ผิวน้ำ และฝนที่ตกมากขึ้นจะพัดเอาน้ำที่ไหลบ่าจากพื้นที่ภาคการเกษตรและตะกอนจากแผ่นดินลงไปในน้ำ ส่งผลให้แพลงก์ตอนเติบโตมากขึ้น

ฝนตกหนักรุนแรงกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ

ในมหาสมุทรเปิดโล่ง สีที่เข้มขึ้นยังมีความเชื่อมโยงกับอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดกั้นแสงที่เพิ่มมากขึ้น

พื้นที่ใดได้รับผลกระทบบ้าง ?

A world map showing changes in global photic zones between 2003 and 2022 are shown with red areas to indicate ocean darkening and blue lightening.

ที่มาของภาพ, University of Plymouth

คำบรรยายภาพ, การเปลี่ยนแปลงในโฟติกโซนทั่วโลกระหว่างปี 2003-2022 สีแดงหมายถึงมหาสมุทรที่มีสีเข้มขึ้น ส่วนสีน้ำเงินหมายถึงพื้นที่ที่มีความสว่าง

งานศึกษาพบว่า มากกว่า 9% ของมหาสมุทรซึ่งมีขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกับทวีปแอฟริกา มีความสว่างลดลงมากกว่า 50 เมตร ขณะที่อีก 2.6% ของมหาสมุทร มีความสว่างลดลงมากกว่า 100 เมตร

การศึกษายังระบุด้วยว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงในความลึกโฟติกโซนชัดเจนมากที่สุดอย่างมีนัยสำคัญบริเวณยอดของกระแสน้ำกัลฟ์สตรีม (Gulf stream) ทั้งในภูมิภาคอาร์กติกและแอนตาร์กติกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากที่สุด

สีที่เข้มขึ้นอย่างยังแพร่กระจายไปยังพื้นที่ชายฝั่งทะเลและทะเลปิด รวมถึงทะเลบอลติกด้วย

การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าความมืดของมหาสมุทรไม่ได้จำกัดอยู่แค่บริเวณชายฝั่งทะเล แต่ยังส่งผลกระทบต่อมหาสมุทรเปิดด้วย

อย่างไรก็ตาม งานศึกษาพบว่าไม่ใช่ทุกส่วนของมหาสมุทรที่มีสีเข้มมากขึ้น แต่มีประมาณ 10% ของมหาสมุทรที่มีความสว่างมากขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันด้วย

ผู้เขียนงานศึกษาบอกว่าภาพผสมผสานเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของระบบมหาสมุทร และมีปัจจัยอย่างอย่างที่ส่งผลต่อความใสของน้ำ

An aerial view of Izmir Bay, Turkey, after the color of the sea has changed into green and brown due to plankton explosion on 12 June 2024.

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, แพลงก์ตอนบานในอิซเมียร์ ตุรกี

ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลอย่างไร ?

แม้ว่าผลกระทบที่แน่ชัดของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะยังไม่ชัดเจน แต่นักวิทยาศาสตร์บอกว่าสายพันธุ์ทางทะเลจำนวนมากและระบบนิเวศของโลกอาจได้รับผลกระทบ

“มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าพื้นผิวของมหาสมุทรได้เปลี่ยนสีไปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา อาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในชุมชนแพลงก์ตอน” ดร. โทมัส เดวีส์ รองศาสตราจารย์ด้านการอนุรักษ์ทางทะเล กล่าว

“แต่ผลการวิจัยของเรามีหลักฐานว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้เกิดสีเข้มที่ขยายพื้นที่มากขึ้น ซึ่งลดพื้นที่ของมหาสมุทรสำหรับสัตว์ที่ต้องพึ่งพาแสงอาทิตย์และแสงจันทร์เพื่อความอยู่รอดและการสืบพันธุ์”

ชั้นน้ำด้านบนนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทางทะเลส่วนใหญ่ และเป็นที่ที่สิ่งมีชีวิตคล้ายพืชที่เรียกว่าไฟโตแพลงก์ตอนทำการสังเคราะห์แสง สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเหล่านี้เป็นฐานของห่วงโซ่อาหาร และสามารถพบได้ใกล้ผิวน้ำ เนื่องจากพวกมันต้องการแสงแดดในการสังเคราะห์แสง

นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดสัตว์ทะเลจำนวนมากจึงออกหาอาหารและสืบพันธุ์ในโฟติกโซนซึ่งมีอาหารมากมาย

นอกจากนี้ไฟโตแพลงก์ตอนยังสร้างออกซิเจนประมาณครึ่งหนึ่งของชั้นบรรยากาศ และมีความสำคัญต่อการหมุนเวียนคาร์บอน รวมถึงสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทร

“สาเหตุแท้จริงที่น่ากังวล”

ดร.เดวีส์กล่าวว่า สีของมหาสมุทรที่เข้มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่ออากาศที่มนุษย์หายใจเข้าไป ปลาที่พวกเรากิน และความสามารถของโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“การค้นพบของเราแสดงให้เห็นถึงสาเหตุแท้จริงที่น่ากังวล”

ด้านศาสตราจารย์ทิม สมิธ หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ชีวธรณีเคมีทางทะเลและการสังเกตการณ์ประจำห้องปฏิบัติการพลีมัธ กล่าวว่า สัตว์ทะเลบางชนิดอาจขึ้นสู่ผิวน้ำมากขึ้น เนื่องจากต้องการแสง และพฤติกรรมนี้จะทำให้เกิดการแย่งชิงอาหาร รวมถึงทรัพยากรอื่น ๆ มากขึ้น

“สิ่งนั้นอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในระบบนิเวศทางทะเลทั้งหมด” ศาสตราจารย์สมิธ กล่าว

การศึกษานี้ดำเนินการอย่างไร ?

ในการศึกษาเรื่อง “สีที่เข้มขึ้นของมหาสมุทรทั่วโลก” นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมช่วงเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ ควบคู่ไปกับการสร้างแบบจำลองมหาสมุทรขั้นสูง

ฐานข้อมูลสีของมหาสมุทรของนาซา (NASA) ได้แบ่งมหาสมุทรทั่วโลกออกเป็น 9 กิโลเมตรพิกเซล ช่วยให้นักวิจัยสามารถตรวจสอบการเปลี่ยนบนผิวมหาสมุทรในแต่ละพิกเซล ขณะที่อัลกอริทึมที่ออกแบบมานั้นช่วยวัดความสว่างของน้ำทะเล ซึ่งถูกใช้เพื่อประเมินความลึกของโฟติกโซนในแต่ละตำแหน่ง

แบบจำลองการฉายรังสีของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ยังถูกนำมาใช้เพื่อตรวจสอบว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพแสงทั้งในตอนกลางวันและกลางคืนนั้น อาจส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลอย่างไร

การศึกษาพบว่าระดับแสงในเวลากลางคืนมีความเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าเวลากลางวัน แต่พวกเขาก็พบว่ามันมีนัยสำคัญต่อระบบนิเวศวิทยาด้วย