“อภิสิทธิ์” ชี้ 4 ปัจจัยเสี่ยงไทยโตไม่ถึงศักยภาพ แนะเร่งปรับโครงสร้าง

“อภิสิทธิ์”-ชี้-4-ปัจจัยเสี่ยงไทยโตไม่ถึงศักยภาพ-แนะเร่งปรับโครงสร้าง
“อภิสิทธิ์” ชี้ 4 ปัจจัยเสี่ยงไทยโตไม่ถึงศักยภาพ แนะเร่งปรับโครงสร้าง

เศรษฐกิจ

31 พ.ค. 2025 เวลา 19:16 น.

“อภิสิทธิ์” ชี้ 4 ปัจจัยเสี่ยงไทยโตไม่ถึงศักยภาพ จากจุดอ่อนด้านสถาบัน คอรัปชัน ขาดพัฒนาภาคธุรกิจ และเสรีภาพการเมือง เร่งกระตุ้นความตื่นตัวสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง

กระแสสังคมตั้งคำถามว่ารัฐไทยล้มเหลวหรือไม่? หรือเป็นประเทศที่โตไม่ถึงศักยภาพตามนิยามในหนังสือ “Why Nations Fail” ของผู้เขียนรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2024 

“กรุงเทพธุรกิจ” สรุปประเด็นที่น่าสนใจภายในงานเสวนาหัวข้อ “Why Nations Fail บทเรียนที่ประเทศไทยต้องไม่ล้มเหลว“ จัดโดย กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วันที่ 31 พ.ค.2568

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะไปไม่ถึงศักยภาพที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นภาวะที่แตกต่างจากคำว่า “รัฐล้มเหลว” (failed state) ที่มีนิยามเฉพาะเจาะจง โดยให้คะแนนประเทศไทยที่ 5.5 โดยเสี่ยงมากคือ 10 

ทั้งนี้ ปัจจัยที่เป็นความท้าทายที่สำคัญ ได้แก่

1.จุดอ่อนด้านสถาบัน จากการจัดอันดับระหว่างประเทศในมิติต่างๆ เช่น การทุจริต เสรีภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง ประชาธิปไตย และความพร้อมในการปรับตัว พบว่า “สถาบัน” คือจุดอ่อนที่สุดของไทย โดยอันดับเหล่านี้มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

2.จุดอ่อนด้านการวิจัยและพัฒนา เป็นอีกหนึ่งจุดเปราะบางที่สำคัญตามแนวคิดของหนังสือ ‘Why Nations Fail’

3.ขาดพลวัตในภาคธุรกิจ บริษัทขนาดใหญ่ 10 อันดับแรกในตลาดหลักทรัพย์แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงหลายทศวรรษ สะท้อนการขาดการแข่งขัน ซึ่งทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่ไม่จำเป็นต้องปรับตัวมากนัก ต่างจากประเทศที่กำลังก้าวหน้าที่บริษัทชั้นนำมักเป็นธุรกิจใหม่ด้านเทคโนโลยี

4.ความนิ่งงันทางการเมือง ซึ่งมองว่าการเมืองไทยมีแนวโน้มจะอยู่ในสภาวะนี้ไปอีกอย่างน้อย 3-4 ปี โดยพรรครัฐบาลพอใจกับการอยู่ในอำนาจโดยไม่จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ขณะที่ฝ่ายค้านอาจมองว่าปัญหาที่สะสมจะเพิ่มโอกาสของตนในอนาคต สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ประเทศเสียโอกาสในการปรับตัวท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และศักยภาพของคนไทยที่ไม่ได้ด้อยกว่าใคร มองไปในอนาคต ประเทศไทยยังมีโอกาสในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV), Data Center และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งการลงทุนที่ยังคงไหลเข้ามาแม้จะมีปัญหาต่างๆ สะท้อนว่าไทยมี “บุญเก่า” จากการตัดสินใจในอดีตที่สนับสนุนระบบตลาดเสรีและบทบาทนำของภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญคือปัญหา “กบต้ม” ที่ปัญหาต่างๆ ชัดเจนมานานกว่า 10 ปี แต่ไม่ถึงขั้นวิกฤต ทำให้ขาดแรงกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ผู้คนเคยชินและลดความคาดหวังลง นอกจากนี้ ปัญหา “State Capture” หรือการถูกครอบงำโดยกลุ่มผลประโยชน์ ก็เป็นอีกประเด็นที่น่ากังวล โดยหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งถูกครอบงำไปแล้ว และต้องจับตาดูระบบศาลยุติธรรมต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้เขียนให้สัมภาษณ์กับสื่อบีบีซีไทย โดยเปรียบเทียบไทยกับเกาหลีใต้ ซึ่งเคยมีระดับการพัฒนาใกล้เคียงกัน แต่ปัจจุบันเกาหลีใต้ก้าวไปไกลกว่ามาก ปัจจัยหนึ่งคือการถอยออกจากการเมืองของกองทัพ และการที่ประธานาธิบดีที่ทุจริตต้องรับโทษจำคุก 

“หากประเทศไทยสามารถทำให้ผู้มีอำนาจที่ทุจริตต้องรับผิดตามกฎหมายได้ ก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทั้งนี้มองปัญหาที่ระบบไม่ใช่ตัวบุคคล”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญยังคงเป็นอุปสรรค แต่การจะรื้อถอนก็มีความกลัวว่าจะได้สิ่งที่ไม่แน่นอนกลับมา สิ่งสำคัญคือการ “ช่วยกันสร้างกลไกการตรวจสอบการใช้อำนาจของคนที่มาจากการเลือกตั้งให้เข้มแข็งที่สุด” ซึ่งหมายถึงหลักนิติธรรม และความเป็นอิสระขององค์กรตรวจสอบ ศาล และสื่อมวลชน 

ส่วนระบบราชการ แม้ในอดีตจะช่วยรักษาเสถียรภาพ แต่ปัจจุบันไม่ถูกออกแบบมาเพื่อนำการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการรื้อโครงสร้างเดิมของประเทศเป็นหน้าที่ของ “ฝ่ายการเมือง” ที่เข้มแข็งและมีทิศทางชัดเจน ภายใต้การตรวจสอบที่น่าเชื่อถือ

“การสร้างความตื่นตัวให้สังคมเห็นว่าไม่สามารถเดินหน้าต่อไปแบบเดิมได้ และต้องมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง นอกจากนี้ ความท้าทายสำคัญคือ “ปัญหาการสื่อสารและทำความเข้าใจระหว่างรุ่น” ซึ่งผู้ใหญ่ควรเป็นฝ่ายรับฟังคนรุ่นใหม่ และทุกคนควรบังคับตัวเองให้คุยกับคนที่เห็นต่างให้มากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจเหตุผลของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาความจริงและทางออกร่วมกัน

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1182824&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2Ue47R5xMN66Waj_3VJhF4

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *