นายกฯประชุม ‘IMT-GT’จับมือ 3 ประเทศร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ | เดลินิวส์

นายกฯประชุม-‘imt-gt’จับมือ-3-ประเทศร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ-|-เดลินิวส์
นายกฯประชุม ‘IMT-GT’จับมือ 3 ประเทศร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ | เดลินิวส์

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 พ.ค. (ตามเวลาท้องที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งตรงกับเวลา 16.00 น. ของเวลาในประเทศไทย) ที่ห้อง Conference Hall 1 ชั้น 3 ศูนย์ประชุม Kuala Lumpur Convention Center (KLCC) ประเทศมาเลเซีย  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) ครั้งที่ 16 ร่วมกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) 

โดยนายกฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลมาเลเซียในฐานะเจ้าภาพ และขอบคุณเลขาธิการอาเซียน และธนาคารพัฒนาเอเชีย ที่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นโอกาสอันเหมาะสม ในการยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันของทั้งสามประเทศต่อ “IMT-GT Vision 2036” ที่มุ่งสร้างอนุภูมิภาค ที่มีการบูรณาการ นวัตกรรม ที่ครอบคลุมอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือที่ดำเนินมากว่า 30 ปีนั้น ได้ก่อให้เกิดพัฒนาการที่สำคัญด้านความเชื่อมโยง การบูรณาการทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนุภูมิภาค พร้อมทั้งแสดงความยินดีต่อการลงนามกรอบความร่วมมือด้านศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันโรค ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นของทั้งสามประเทศ และแม้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว หลังจากวิกฤติโรคระบาด แต่ภูมิภาคยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิอากาศ และการชะลอตัวของห่วงโซ่อุปทาน 

นายกฯ ยังกล่าวเสนอแนวทางความร่วมมือ 3 ประการ คือ ความร่วมมือในภาคเกษตร โดยเฉพาะสินค้าที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อทั้งสามประเทศ ได้แก่ ยางพาราและปาล์มน้ำมัน โดยขอเสนอให้ประเทศสมาชิกเร่งยกระดับการแปรรูปสินค้าเกษตร ใช้มาตรฐานความยั่งยืนสากลและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ นำไปสู่การเสริมสร้างภาพลักษณ์ของ IMT-GT ในฐานะผู้นำด้านเกษตรกรรมที่ยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบทของแต่ละประเทศ ส่วนประการที่สอง การส่งเสริมนวัตกรรมและการวิจัยพัฒนา (R&D) โดยเฉพาะในภาคเกษตร ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจระยะยาวให้กับอนุภูมิภาคได้

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะที่ประการที่สาม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและดิจิทัลไร้รอยต่อ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ และเครือข่ายดิจิทัลนั้น โดยโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นการเติบโต ดึงดูดการลงทุน และบูรณาการความร่วมมือในอนุภูมิภาคให้มากยิ่งขึ้น โดยโครงการภายใต้ IMT-GT ควรสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ 2036 ที่เน้นความครอบคลุม ความยืดหยุ่น และความยั่งยืน 

ในช่วงท้าย นายกฯ กล่าวเน้นย้ำว่า จุดแข็งของ IMT-GT อยู่ที่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในเป้าหมายร่วมกัน ของทั้งสามประเทศ ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่เป็นกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นเวทีเพื่อสันติภาพ ความมั่งคั่ง และความเป็นหุ้นส่วน และขอเชิญชวนให้ทุกประเทศ เดินหน้าร่วมกันเพื่ออนาคตที่เชื่อมโยงบูรณาการระหว่างกัน มีนวัตกรรม ครอบคลุม และมีความยั่งยืนของประชาชนในอนุภูมิภาค IMT-GT สามประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมฯ 3 ประเทศ ยังได้รับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 แผนงาน IMT-GT (Joint Statement of the 16th IMT-GT Summit) ซึ่งยืนยันในความมุ่งมั่นต่อวิสัยทัศน์ IMT-GT พ.ศ. 2579 (IMT-GT Vision 2036) พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจยั่งยืนผ่านแนวทางเศรษฐกิจ สีเขียว สีน้ำเงิน (เศรษฐกิจที่ใช้ทรัพยากรทางทะเลฯ) และเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมทั้งการขับเคลื่อนการเติบโตด้วยนวัตกรรมดิจิทัล และการรับมือความท้าทายระดับโลก จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมยินดีต่อการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันโรคระหว่างกัน อีกด้วย.

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.dailynews.co.th/news/4752414/&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0GXsbqf0EDqccVNMtfe1_U

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *