Volvo สั่งปลด 3,000 ตำแหน่ง สังเวยพิษเศรษฐกิจโลก ตลาด EV ชะลอตัว

ตามข้อมูลจากสำนักข่าว REUTERS วอลโว่ คาร์ส (Volvo Cars) ค่ายรถยนต์สัญชาติสวีเดน ประกาศเตรียมลดจำนวนพนักงานลงถึง 3,000 ตำแหน่ง

โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพนักงานออฟฟิศ หรือที่เรียกว่า “White-collar” 

นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรที่บริษัทเคยประกาศไว้เมื่อเดือนที่แล้ว

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้นทุนการดำเนินงานพุ่งสูงขึ้น ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มชะลอตัว และความไม่แน่นอนทางการค้าทั่วโลก

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่บริษัทพยายามอย่างยิ่งที่จะกอบกู้ราคาหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนัก

และกระตุ้นยอดขายรถยนต์ของตัวเองให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยการปรับโครงสร้างธุรกิจและเน้นการลดค่าใช้จ่ายอย่างจริงจัง

ภารกิจ “รัดเข็มขัด” 

ฮาแกน ซามูเอลส์สัน (Hakan Samuelsson) เพิ่งกลับมารับตำแหน่งซีอีโออีกครั้ง หลังจากเคยคุมบังเหียนบริษัทมานานนับทศวรรษจนถึงปี 2022

ได้เปิดเผยแผนการลดต้นทุนมหาศาลถึง 1.8 หมื่นล้านโครนสวีเดน (หรือประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

โดยหัวใจสำคัญของแผนนี้คือการลดจำนวนพนักงานฝ่ายบริหาร ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% ของพนักงานทั้งหมด

ซามูเอลส์สันให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว REUTERS เมื่อวันศุกร์ว่า “การลดจำนวนพนักงานครั้งนี้ครอบคลุมเกือบทุกแผนก ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายสื่อสาร หรือแม้แต่ฝ่ายบุคคล”

และยังกล่าวเสริมว่า “เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กร และเป็นการปรับลดขนาดที่ใหญ่มาก”

“ผมเชื่อว่านี่จะเป็นผลดีต่อบริษัท ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และยังเปิดโอกาสให้พนักงานของเราได้เติบโตและรับผิดชอบในหน้าที่ที่ใหญ่ขึ้นด้วย” ซีอีโอวอลโว่กล่าว

ด้าน เฟรดริก แฮนส์สัน (Fredrik Hansson) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) คนใหม่ของวอลโว่ คาร์ส เปิดเผยกับ REUTERS เช่นกันว่า

แม้ทุกแผนกและสำนักงานจะได้รับผลกระทบ แต่การปลดพนักงานส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในเมืองกอเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งหลักของบริษัท

“เรากำลังปรับโครงสร้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และวิธีการดำเนินการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่เราจะพิจารณาทุกแง่มุมอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่มีส่วนไหนถูกละเลย” นายแฮนส์สันยืนยัน

ผลกระทบและมุมมองนักวิเคราะห์

วอลโว่ คาร์ส ระบุในแถลงการณ์ว่า การปลดพนักงานครั้งนี้คิดเป็นประมาณ 15% ของพนักงานสำนักงานทั้งหมด และจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กรแบบครั้งเดียวจำนวน 1.5 พันล้านโครนสวีเดน

ด้วยฐานการผลิตส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปและจีน ทำให้วอลโว่ คาร์ส เผชิญกับความเสี่ยงจากมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ มากกว่าคู่แข่งในยุโรปหลายราย 

ก่อนหน้านี้บริษัทเคยเปรยว่าอาจเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งออกรถยนต์รุ่นที่ราคาเข้าถึงง่ายที่สุดไปยังตลาดสหรัฐฯ หากต้องแบกรับภาระภาษีดังกล่าว

บริษัทแจ้งว่าจะดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ให้แล้วเสร็จภายในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้

ฮัมปุส เอ็นเกลเลา (Hampus Engellau) นักวิเคราะห์จาก Handelsbanken ให้ความเห็นว่า จำนวนพนักงานที่ถูกปลดออกนั้นเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และการที่บริษัทพยายามปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก

ก่อนหน้านี้ วอลโว่ คาร์ส ได้ถอนคำแนะนำทางการเงินสำหรับปีนี้ หลังประกาศแผนลดต้นทุนเมื่อเดือนที่แล้ว

โดยให้เหตุผลถึงสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง และผลกระทบจากภาษีการค้าที่สร้างความปั่นป่วนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษี 50% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน

แต่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เขาก็ได้ผ่อนผันกำหนดเส้นตายออกไปเป็นวันที่ 9 กรกฎาคม เพื่อเปิดทางให้มีการเจรจาระหว่างวอชิงตันและบรัสเซลส์

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของวอลโว่ คาร์ส ปรับตัวขึ้น 3.6% เมื่อวันจันทร์ โดยส่วนใหญ่เป็นการปรับขึ้นก่อนการประกาศปลดพนักงาน

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นยังคงลดลง 24% เมื่อเทียบกับต้นปีจนถึงปัจจุบัน