เศรษฐกิจไทยสาหัสหนัก | เดลินิวส์

เศรษฐกิจไทยสาหัสหนัก-|-เดลินิวส์
เศรษฐกิจไทยสาหัสหนัก | เดลินิวส์

ด้วยผลกระทบจากนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐ ที่มีผลกระทบไปทั่วโลก รวมไปถึงไทยที่แรงต้านภายในก็ยังอ่อนแอ มีความเสี่ยงสารพัด

ทั้งหนี้ครัวเรือน หนี้ธุรกิจที่ยังสูง แม้มีแนวโน้มลดลงก็ตาม กำลังซื้อในประเทศ โดยเฉพาะภาคเอกชน ภาคประชาชน ก็เริ่มอ่อนแอ ผนวกรวมเข้ากับการส่งออกที่จะเจอกับพายุลูกใหญ่

สภาพัฒน์ บอกว่า การส่งสัญญาณครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการมองอะไรในแง่ร้ายจนเกินไป โดยได้พิจารณาจากข้อมูลด้านเศรษฐกิจในทุกด้าน 

โดยผลกระทบจะเริ่มมีให้เห็นชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีนี้เป็นต้นไป และอยู่ยาว ๆ ไปอีก 2 ปี โดยธุรกิจต้องหาทางรับมือในทุกทางเพื่อเอาให้อยู่ ขณะที่ประชาชนคนไทย ก็ต้องอดออม รู้จักประหยัด

การออกมาประกาศเตือนการใช้ชีวิตของประชาชนคนไทย ของภาคธุรกิจ หรือการหั่นจีดีพีมากถึง 1% ของสภาพัฒน์ ในครั้งนี้ แทบจะเรียกได้ว่า ไม่เคยเห็นมาก่อน

นั่นหมายความว่า… ประชาชนคนไทยจะนิ่งเฉย หรือใช้ชีวิตแบบที่เคยเป็นหรือเป็นอยู่อีกต่อไปไม่ได้ เพราะวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในรอบนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ และแตกต่างจากวิกฤติต้มยำกุ้งแบบคนละเรื่อง

เพราะผลที่เกิดขึ้น ได้แพร่กระจายไปในทุกกลุ่มคนโดยเฉพาะคนรากหญ้า คนทำมาหากิน ไม่ใช่ “ล้มบนฟูก” เหมือนปี 40 ซึ่งเท่ากับว่าความยากลำบากก็จะเข้าขั้น “สาหัส”

แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรกที่ผ่านมา จะดูดี…เพราะขยายตัวได้ถึง 3.1% ก็ตาม เป็นผลจากการ แห่ออเดอร์สินค้า เพื่อเตรียมรับมือผลกระทบจากการขึ้นภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

แต่จากนี้ไป… จะเริ่มเห็นผลกระทบที่เริ่มหนักหนาสาหัส เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ!!

ดังนั้น!! การที่ภาครัฐบาลยังคงหลงยังติดกับดักตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แม้เป็นข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจก็ตาม แต่ไม่ได้เกิดจากศักยภาพที่แท้จริง

ปัญหา… ก็คือ  รัฐบาลจะทำอย่างไร? เพื่อให้การเจรจากับสหรัฐเป็นผลบวกกับประเทศไทยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้สหรัฐได้ส่งสัญญาณในเชิงบวก กับแนวทางเจรจาทั้ง 5 แนวทางมาแล้วก็ตาม

รัฐบาลจะทำอย่างไร? เพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศมีการหมุนเวียน ให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศมีรายได้เพียงพอกับรายจ่าย หรือมีมากกว่ารายจ่าย เพื่อให้มีเงินเหลือในการจับจ่ายใช้สอย โดยเป็นหนี้น้อยที่สุด

รัฐบาลจะทำอย่างไร? เพื่อให้ประชาชนคนไทย ให้บรรดาผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อย พ้นจากการเป็นหนี้ หรือมีหนี้ลดลงให้ได้มากที่สุด

รัฐบาลจะทำอย่างไร? กับปัญหาพืชผลทางการเกษตรที่มีราคาตกต่ำ ที่ได้คืบคลานเข้ามา ทั้งราคาผลไม้ในภาคตะวันออก ในภาคเหนือ ในภาคใต้

รัฐบาลจะทำอย่างไร? กับราคาข้าวที่เชื่อว่าในอีกไม่ช้า “ม็อบชาวนา” จะบังเกิดขึ้น ด้วยสารพัดเหตุที่ทำให้ราคาข้าวไปต่อไม่ไหว เงินช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยเฉพาะไร่ละพัน ที่รวมแล้วไม่เกินรายละ 20,000 บาท จนป่านนี้ชาวนายังไม่ได้เงิน

ที่น่าเป็นห่วง การส่งออกข้าวไทยในปีนี้จะเหลือเท่าไหร่? แม้ ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. – 18 เม.ย.ที่ผ่านมา จะส่งออกข้าวไทยได้ 2.477 ล้านตัน แต่ก็ลดลง 19.31 % เพราะอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว และสภาพอากาศเอื้อต่อการเพาะปลูกในหลายประเทศ ทำให้ผลผลิตรวมสูงขึ้น

ขณะที่ประเทศนำเข้าอย่าง ฟิลิปปินส์  ก็นำเข้าในปีที่แล้วมากถึง 4 ล้านตัน ดังนั้นโอกาสในการนำเข้าในปีนี้จึงหดหายเหลือไม่เกิน 1 ล้านตัน

หรือแม้แต่ภาคการท่องเที่ยว ที่เคยสดใสมาโดยตลอด แต่มาปีนี้ นักท่องเที่ยวหลักอย่างนักท่องเที่ยวจีน ก็ลดน้อยถอยลง ด้วยเพราะสารพัดปัญหาที่สะสมมาหลายปี แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. ได้ลดเป้าหมายต่างชาติเที่ยวไทยปีนี้  ลงมาอยู่ที่ 35.5 ล้านคน เท่ากับปีที่แล้ว แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ก็ตาม

อย่างที่รู้กัน ปัญหามากมายกำลังโถมเข้าใส่รัฐบาล เพราะเครื่องยนต์เศรษฐกิจเริ่มดับในทุกเครื่องยนต์ เหลือเพียงเรื่องของการลงทุน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รัฐบาลต้องแปรเปลี่ยนนโยบายจากการแจกเงินหมื่น ไปโหมใส่การกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน ผ่านโครงการใน 4 เสาหลัก

เพราะ…หวังขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจในประเทศสามารถทัดทานจากพายุใหญ่ ที่กำลังเข้ามา แม้ว่าเงินก้อนใหญ่ 1.57 แสนล้านบาท ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบ สภาพัฒน์ได้คำนวณรวมไปแล้วกับการคาดการณ์จีดีพีที่ 1.8% ก็ตาม

จากนี้!! คงต้องรอดูกันต่อไปว่าความพยายามของรัฐบาลจะยังคงรักษาเก้าอี้ให้มั่นคงได้ต่อไปแค่ไหน?.

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”

อ่านบทความทั้งหมดคลิกที่นี่

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.dailynews.co.th/articles/4744554/&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0M7dVISpUJuczubyziwPPN

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *