“นิด้าโพล” เผยประชาชน 54% ไม่โกรธ หาก “นายกฯอิ๊งค์” คว่ำโครงการแจกเงินหมื่น “วัยรุ่น-วัยทำงาน”

“นิด้าโพล”-เผยประชาชน-54%-ไม่โกรธ-หาก-“นายกฯอิ๊งค์”-คว่ำโครงการแจกเงินหมื่น-“วัยรุ่น-วัยทำงาน”
“นิด้าโพล” เผยประชาชน 54% ไม่โกรธ หาก “นายกฯอิ๊งค์” คว่ำโครงการแจกเงินหมื่น “วัยรุ่น-วัยทำงาน”

25 พ.ค. 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “วิกฤติเศรษฐกิจกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 และ เฟส 4” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ พบว่า

ตัวอย่าง ร้อยละ 83.66 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน
รองลงมา ร้อยละ 9.70 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องหาทางแก้ไขแต่ไม่เร่งด่วน
ร้อยละ 4.20 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ไม่น่าวิตกกังวลใด ๆ
และร้อยละ 2.44 ระบุว่า ไม่ได้เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ

สำหรับการเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจของประชาชนในขณะนี้ พบว่า

ตัวอย่าง ร้อยละ 47.17 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน
รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า เผชิญกับ วิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่สามารถรับมือได้ด้วยตนเอง
ร้อยละ 15.80 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลแต่ไม่เร่งด่วน
และร้อยละ 7.56 ระบุว่า ไม่ได้เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจใด ๆ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 ของรัฐบาลให้กับประชาชนกลุ่มอายุ 16-20 ปี ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน พบว่า

ตัวอย่าง ร้อยละ 57.25 ระบุว่า ดำเนินนโยบายต่อไปในปีนี้ ตามที่ได้ประกาศไว้
รองลงมา ร้อยละ 33.90 ระบุว่า ควรหยุดการดำเนินการในนโยบายนี้ได้แล้ว
ร้อยละ 7.63 ระบุว่า เลื่อนการดำเนินนโยบายไปในปี 2569
และร้อยละ 1.22 ระบุว่า เลื่อนการดำเนินนโยบายไปในปี 2570

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 4 ของรัฐบาลให้กับประชาชนกลุ่มอายุ 21-59 ปี ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน พบว่า

ตัวอย่าง ร้อยละ 62.98 ระบุว่าดำเนินนโยบายต่อไปในปีนี้ ตามที่ได้ประกาศไว้
รองลงมา ร้อยละ 26.95 ระบุว่า ควรหยุดการดำเนินการในนโยบายนี้ได้แล้ว
ร้อยละ 8.47 ระบุว่า เลื่อนการดำเนินนโยบายไปในปี 2569
และร้อยละ 1.60 ระบุว่า เลื่อนการดำเนินนโยบายไปในปี 2570

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความรู้สึกของประชาชน หาก นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ตัดสินใจยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พบว่า

ตัวอย่าง ร้อยละ 54.12 ระบุว่า ไม่โกรธเลย
รองลงมา ร้อยละ 17.41 ระบุว่า ค่อนข้างโกรธ
ร้อยละ 15.27 ระบุว่า โกรธมาก
ร้อยละ 13.05 ระบุว่า ไม่ค่อยโกรธ
และร้อยละ 0.15 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://ch3plus.com/news/political/morning/440249&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3NSZSv3a-lwddzoXOACX_7

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *