“ภูมิธรรม” ล้อมวงคุยทหารชายแดนภาคใต้-รับฟังภาคธุรกิจ ยันรัฐบาลเร่งสร้างสันติสุข

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ปัตตานี ล้อมวงคุยฝ่ายทหารชายแดนภาคใต้ พร้อมรับฟังปัญหา-อุปสรรค ก่อนคุยภาคธุรกิจ เสนอแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว เชื่อมโยงสันติภาพกับการลงทุน ยันรัฐบาลเร่งสร้างสันติสุขในพื้นที่ให้เกิดขึ้น

วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมเพื่อรับฟังความเห็นจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่ห้องประชุมสมาคมนายทหารชั้นสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เป็นการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ รวมถึงปัญหาและอุปสรรคจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ อันเป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดแนวทางและนโยบายด้านความมั่นคงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ นายภูมิธรรมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ทหาร และประชาชนเพื่อสร้างสันติสุขและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

สำหรับการประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นในลักษณะเปิดกว้างโดยมีการนั่งล้อมวงพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารจากทุกภาคส่วนได้ร่วมสะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะจากประสบการณ์การทำงานในพื้นที่จริง โดยมีการหยิบยกประเด็นสำคัญหลายด้าน อาทิ มุมมองต่อสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้, สาเหตุของปัญหา, อุปสรรคในการปฏิบัติงาน, ข้อเสนอแนะต่อการแก้ไขปัญหา ตลอดจนสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งผลักดันเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ของรองนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสนับสนุนและส่งเสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ พร้อมเดินหน้าผลักดันแนวทางและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากเวทีหารือให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในระยะต่อไป

ต่อมาเวลา 13.15 น. นายภูมิธรรม พบปะกับตัวแทนภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรมจาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และ จ.สงขลา รวมถึงตัวแทนจากหอการค้าจังหวัด ร่วมกันหารือเพื่อหาแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาปากท้องในพื้นที่

สำหรับประเด็นร้อนที่ภาคเอกชนยื่นเสนอ เช่น การผลักดันให้ “เมืองโบราณยะรัง” กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม พร้อมเชื่อมโยงกับนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอเกี่ยวกับการพัฒนา “อ่าวปัตตานี” (Patani Bay) เพื่อเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ในพื้นที่ชายแดนใต้ และภาคธุรกิจยังสะท้อนความเดือดร้อนจากภาคประมงที่กำลังซบเซา รายได้ลดลงกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปีด้วย

ทางด้าน นายภูมิธรรม เผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบปัญหาและได้อนุมัติงบประมาณขุดลอกปากอ่าว เพื่อฟื้นฟูศักยภาพการประมงในเบื้องต้นแล้ว การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการรับฟังข้อเสนอจากทุกภาคส่วนโดยตรง พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังเตรียมเดินทางเข้าร่วมประชุมระดับสูงที่ประเทศมาเลเซียในวันพรุ่งนี้ โดยมีกำหนดพบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย รวมถึงสุลต่านทั้ง 3 รัฐของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหารือความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่

ทั้งนี้ ครม. มีการหารือพูดถึงศักยภาพการลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ชายแดนใต้มีกำลังการผลิตและความเชี่ยวชาญ โดยพร้อมผลักดันให้เป็นศูนย์กลางส่งออก รวมถึงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น ยางพารา และทุเรียน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของชาวบ้าน

ขณะเดียวกัน นายภูมิธรรม ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ความสงบสันติภาพคือเงื่อนไขของการพัฒนาด้วย เราต้องสร้างความมั่นคงให้ได้ก่อน นักลงทุนก็พร้อมจะมา เพราะพื้นที่นี้ถือว่ามีศักยภาพอย่างมาก ทั้งทางทรัพยากรและวัฒนธรรม แต่จะต้องมีเสถียรภาพ สงบ และมีทิศทางชัดเจน พร้อมให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะเร่งรัดผลักดันนโยบายต่างๆ และเร่งสร้างสันติสุขในพื้นที่ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด.