เศรษฐกิจไทยสาหัส “ราคาปาล์ม-ข้าว” ดิ่ง ชี้ช่องพาณิชย์แก้วิกฤต

เศรษฐกิจไทยสาหัส-“ราคาปาล์ม-ข้าว”-ดิ่ง-ชี้ช่องพาณิชย์แก้วิกฤต
เศรษฐกิจไทยสาหัส “ราคาปาล์ม-ข้าว” ดิ่ง ชี้ช่องพาณิชย์แก้วิกฤต

เศรษฐกิจไทยสาหัส “ราคาปาล์ม-ข้าว” ดิ่ง ชี้ช่องพาณิชย์แก้วิกฤต

*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ “ลึก ตรงประเด็น เห็นโอกาส” ฉบับ 4,099 ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ค. 2568 โดย…กาแฟขม  

*** ป่วยหนักเศรษฐกิจไทยจากการแถลงข้อมูลตัวเลขประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ของแทบทุกสำนักทั้งไทยและต่างประเทศ เป็นตัวเลขภาพรวมโตกันแถว 1.6-1.8% ทั้งปี แยกออกมาเป็นภาคย่อยๆ การผลิต บริการ เกษตร อุตสาหกรรม ย่อบแย่บเต็มที่ สภาพัฒน์ถึงกับออกมาเตือนแบบไม่เคยมีครั้งไหน ให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้ อย่างนี้ถ้าพูดกันตรงๆ อาการสาหัสแล้ว ฯพณฯ ทั่น เอ๋ย

*** สาหัสอย่างไร เอาพอให้แลเห็น ใครผ่านไปแถวภาคใต้ มีลานปาล์มเยอะๆ ช่วงนี้คงได้แลเห็นภาพ รถบรรทุกพ่วงบรรจุปาล์มนํ้ามันเต็ม 2 พ่วงเข้าคิวรอยาวเหยียดหน้าลานเทใหญ่ หน้าโรงสกัดนํ้ามันปาล์ม ไม่สามารถเทปาล์มเข้าโรงงานได้ ราคาผลปาล์มเกษตรกรชาวสวนดิ่งลงไปอยู่แถว 4 บาทต้นๆ ทั้งที่ราคาของชาวสวนรายย่อยที่ควรจะได้ ต้องอยู่ที่เกิน 5 บาทต่อ ก.ก. เมื่อคำนวณ ปุ๋ย ยา ค่าแรงตัดปาล์ม

กรุณาอย่าเอามาตรฐานเดิม (กรมการค้าภายใน) ไปคำนวณ อย่าเอามาตรฐานของสวนขนาดใหญ่ ที่ต้นทุนตํ่ากว่าไปคำนวน ว่า แถวๆ 4 บาท นี่กำไรกันเยอะแล้ว ชาวสวนรายย่อยต้นทุนเกิน 4 บาทไปมากโข ณ ขณะนี้ ว่าที่ราคาผลปาล์มแถว 4 บาทต้นๆ แต่ราคานํ้ามันปาล์มขวดยังลอยละลิ่วที่กว่า 60 บาทต่อลิตร ขณะที่โรงสกัดขายให้โรงกลั่นนํ้ามันาปล์มขวดที่ราคา 29-32 บาทต่อ ก.ก. 

 *** เกษตกรชาวสวนปาล์มอกไส้ไหม้ขม ตรงที่แทบไม่เห็นแอคชั่นใดใด หรือ น้อยเกินไปในการแก้ปัญหาจากภาครัฐ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ถึงรมต.พาณิชย์ พิชัย นริพทะพันธุ์ กระทั่ง รมต.เกษตรฯ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หรือ รมต.พลังงาน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ต้องร่วมไม้ ร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหานี้ 3 กระทรวงไม่เคยแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นมือ ได้คิดอ่านวางแผนแก้ปัญหาในช่วงผลผลิตล้นตลาดหรือไม่ ได้วางแผนบริหารสต็อกในภาพรวมหรือไม่ การส่งต่อระหว่างนํ้ามันบริโภค นํ้ามันผสมเป็นไบโอดีเซลใช้กับรถ การสลับขึ้นลงไบโอดีเซลบี 5 บี 7 บี 10 ในแต่ละช่วงเวลายังคงเดินหน้าหรือไม่ 

*** ว่าไปประเดี๋ยวจะถูกข้อหาจ้องทำลาย มีอยู่บ้างในการออกแอคชั่น เมื่อ 7-8 วัน ที่ผ่านมาบอกอย่างนี้ พาณิชย์ลงพื้นที่ 8 จังหวัดใต้ ตรวจเข้มจุดรับซื้อปาล์ม 77 แห่ง หนุนราคาปาล์มชาวสวนพุ่ง 5.70 บาทต่อ ก.ก. แต่ไปดูความเห็น ชาวสวนบอกอย่างไร เขาบอก “คืออะไร เข้มตรงไหน ที่ไหนขายได้ 5.70 บาทต่อก.ก.” “อย่ามโนไปวันๆ ลงไปดูของจริงหน้าลานเท อย่าดีแต่โฆษณา” “พุ่งกะผี ที่ขายหาให้ได้ก่อน รู้เเต่พูด ไม่มาดูความเป็นจริงไม่สามารถเเก้ไขอะไรได้เลย รัฐบาลกินเเต่ภาษีเเผ่นดิน คนที่ตายเกษตรกร” เสียงสะท้อนของเกษตรกรจากแอคชั่นการแก้ปัญหาของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รัฐบาล 

*** ว่าก็ว่า ไหนๆ ก็เลี้ยวไปที่กระทรวงพาณิชย์อาจจะเป็นความผิดพลาดตั้งแต่ต้นในการตั้ง ครม. ที่โดยปกติและความเหมาะสมของการบริหาร กับ กรม กอง ที่มีอยู่ของกระทรวงพาณิชย์ แค่รัฐมนตรีว่าการ กับ รมช. อีก 1 คน ก็เพียงพอในการกำกับดูแลสั่งการและเหมาะสมกับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตั้ง รมว. 1 และมี 2 รมช. แต่เจ้ากระทรวงเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล รวบกรมต่างๆ ไปดูแลซะเป็นส่วนใหญ่ แบ่งให้ รมช.ดูแลกระปริดกระปอย ส่งผลไปถึงการทำงาน แทบไม่มีประสิทธิผล และแถมเกิดผลกระทบกับประชาชนเข้าให้ด้วย 

*** เจ้ากระทรวงพรรคแกนนำเอากรมใหญ่ๆ กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (เดิมกรมส่งเสริมการส่งออก) ขณะที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่เป็นแกนหลักต้นทางการเจรจาทุกเรื่อง เอฟทีเอ การค้าเสรีต่างๆ มอบให้รมช.ดูแลสั่งการ แต่ในเวทีระหว่างประเทศโดยลำดับชั้น สถานะ ที่เขาต้องการให้ไปร่วม เขาต้องการให้เบอร์ 1 เจ้ากระทรวงไปนั่งโต๊ะเจรจา กลายเป็นคนกำกับดูแลต้นทางไม่ได้ไป คนที่ไปไม่ได้กำกับดูแล 

                              เศรษฐกิจไทยสาหัส “ราคาปาล์ม-ข้าว” ดิ่ง ชี้ช่องพาณิชย์แก้วิกฤต

*** มาถึงยุคที่การเจรจาการค้าระหว่างประเทศเข้มข้นเช่นนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยเจ้ากระทรวง พิชัย นริพทะพันธุ์ ต้องบินไปเจรจาประเทศต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เปิดตลาดใหม่ เจรจาการค้ารัฐต่อรัฐ ภาษีสหรัฐ เอฟทีเออียูอาจไม่มีเวลาดูแลใกล้ชิด ก็อาจต้องผ่องถ่ายงานด้านการค้าภายใน ให้ รมช. นภินทร ศรีสรรพางค์ หรือ รมช. สุชาติ ชมกลิ่น คนใดคนหนึ่งกำกับดูแลสั่งการไปก็ได้ ตนเองดูภาพรวมๆ อยู่ข้างบน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการอีกที ถ้าลดความเดือดร้อนประชาชนลงไปได้ ก็พิจารณาดูเถิด

*** แถมท้ายตรงนี้ให้ระวังและวางแผนกันอีกนิด สำหรับกระทรวงพาณิชย์ กับ แนวโน้มราคาข้าวในระยะต่อไปที่จะตกตํ่าลง มีการประเมินราคาปีนี้จะตกตํ่าลง 30% กระทบเกษตรกรชาวนาแน่ เตรียมตัวแก้ปัญหาไว้ได้เลย ที่ตกตํ่ามาจากปัจจัยอะไรบ้าง มาจากการที่อินเดียประกาศยกเลิกราคาขั้นตํ่าในการส่งออก (Minimum Export Price : MEP) และยกเลิกภาษีการส่งออกร้อยละ 10.0

สำหรับข้าวขาว แถมเวียดนามเบอร์ 3 ส่งออกโลก หันมาเร่งส่งออกต่อเนื่อง โดยทำข้อตกลงการค้าระยะยาวกับประเทศผู้นำเข้าหลักๆ ฉะนั้นไทยมีปัญหาส่งออก กระทบราคาภายในรูด ชาวนานํ้าตาร่วงอีก รมต.พาณิชย์ ต้องวางแผนล่วงหน้าแล้ว คิดให้พ้นจากมาตรการเดิมๆ ทีเถิด 

*** ปิดท้าย… วันอังคารที่ 27 พ.ค. 2568 เวลา 10.00 น. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โชว์ศักยภาพ “ครัวของโลกที่ยั่งยืน” ด้วยนวัตกรรมอาหารที่หลากหลาย โดดเด่นด้านคุณภาพ รสชาติอร่อย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในงาน THAIFEX – ANUGA Asia 2025  ภายใต้แนวคิด Kitchen of the World : Quality Through Sustainovation  ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารของไทยสู่ระดับโลก ที่บูธ CPF หมายเลข 2-U01 ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2568 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,099 วันที่ 25 – 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
 

———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thansettakij.com/columnist/than-society/628390&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw0qdqQKDAhYT9mOcip7gAsm

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *