กระทรวงมหาดไทย แจ้งทุกจังหวัดรวบรวมโครงการเพื่อเสนอของบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ภายใน 26 พ.ค. กำชับข้อเสนอทุกโครงการต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ครม. เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจตามเป้าหมายรัฐบาล
วันที่ 24 พ.ค. 2568 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 68 ได้เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งจะครอบคลุมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ เศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ ซึ่งทุกกระทรวงซึ่งเป็นหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องต้องเสนอโครงการ ผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอตามขั้นตอนการกลั่นกรอง และเสนอต่อสำนักงบประมาณในคราวเดียวกันด้วยภายในเดือน พ.ค. 68
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแจ้งผ่านไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้เตรียมการเสนอโครงการและคำของบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดสรรเพื่อการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตามหนังสือได้กำหนดให้จังหวัดและส่วนราชการรวบรวมและจัดส่งคำเสนอโครงการมายังสำนักกระทรวงมหาดไทยภายในวันที่ 26 พ.ค. 68 ซึ่งเป็นกรอบระยะเวลาที่ได้พิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสม ทั้งส่วนหน่วยงานต่างๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้มีระยะเวลาพิจารณาโครงการที่เหมาะสมกับพื้นที่ ครอบคลุมและเป็นประโยชน์กับประชาชน ขณะเดียวกันหน่วยงานที่ทำหน้าที่กลั่นกรองสามารถมีเวลาในการพิจารณาตามขั้นตอนและเสนอโครงการได้ทันตามกรอบเวลาที่ ครม. กำหนด
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังได้กำชับทุกหน่วยงาน และ อปท. ให้จัดทำข้อเสนอโครงการและคำของบประมาณ จะต้องยึดถือหลักเกณฑ์ตามที่ ครม. กำหนดโดยเคร่งครัด เพื่อให้เมื่อเสนอโครงการมาตามลำดับแล้วสามารถพิจารณากลั่นกรองได้ตามกรอบระยะเวลา เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจมากที่สุด รองรับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เดิมกระทรวงมหาดไทยได้ให้จังหวัดรวบรวมข้อมูลโครงการภายในวันที่ 23 พ.ค. 68 เพื่อที่คณะกรรมการระดับกรม และระดับกระทรวง จะได้พิจารณากลั่นกรองให้เป็นไปตามแนวทางหลักเกณฑ์ที่ ครม. กำหนดไว้ แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิดจึงขยายเวลาออกไปเป็นวันที่ 26 พ.ค. 68 เพื่อให้แต่ละพื้นที่ได้พิจารณาโครงการที่เหมาะสมแต่ละพื้นที่ ครอบคลุมทุกมิติและเป็นประโยชน์กับประชาชน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.thairath.co.th/news/politic/2860353&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw2wLOwHgQW1DJJ5SuJ9qTTn