“ดร.กัลยาณี” เผย ภาคการท่องเที่ยวเดี้ยง วอน “นายกฯอิ๊งค์” เร่งแก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี อย่าลากยาวทำเศรษฐกิจพัง
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2568 ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จริงๆแล้ว ความตึงเครียดในพื้นที่บริเวณตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ตึงเครียดมาจากข่าว เพราะว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนนั้น ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ ถึงแม้จะมีความกังวลอยู่บ้าง แต่ชาวบ้านก็ยังคงไม่อยากให้เกิดสงคราม เพราะฉะนั้นก็คือข่าวที่ออกตามสื่อต่างๆ ทั้งหลาย มันมีผลต่อนักท่องเที่ยวมาก จะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวบางกรุ๊ปทัวร์มีแผนเดินทางมาท่องเที่ยวสวนทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ก็มีการยกเลิกการเดินทาง เพราะมีความกังวลต่อสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
บางส่วนก็มีแผนการเดินทางข้ามไปท่องเที่ยวที่นครวัด นครธม ฝั่งประเทศกัมพูชา โดยผ่านเส้นทางจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ก็มีการยกเลิกการเดินทาง เพราะข่าวที่ออกไปสื่อถึงลักษณะกำลังจะเกิดสงคราม มีการเสนอข่าวซ้อมวิ่งหนีเข้าหลบในหลุมหลบภัย เวลาคนดูข่าวที่เป็นคนนอกพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็จะรู้สึกว่าเป็นพื้นที่อันตราย เพราะเขาดูข่าวจากทางไกลๆ เพราะฉะนั้นเรื่องการนำเสนอข่าวจึงมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์ทุกมิติ
จึงอยากจะฝากถึงรัฐบาล ต้องเคลียร์ปัญหาให้จบเร็วที่สุด และแสดงจุดยืนให้ชัดเจน ไม่ควรปล่อยให้ลุกลามบานปลาย จนกลายเป็นยืดเยื้อ ซึ่งจะส่งผลทำให้ขาดความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจการท่องเที่ยว เศรษฐกิจอาจแย่ไปกว่านี้ อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก ไม่ใช่ว่าเราสู้เขาไม่ได้ แต่เราอยากให้มีการพูดคุยกันแล้วจบปัญหาทั้งสองฝ่าย
เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็อยากวิงวอนให้ทางรัฐบาล เร่งแก้ปัญหา เพราะว่าภาคการท่องเที่ยวที่พื้นที่ใกล้ตายแล้ว หากปล่อยไว้ภาคการท่องเที่ยวเราตายแน่ๆ เพราะเราอาศัยเงินท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงเม็ดเงินที่ประชาชนชาวกัมพูชานำมารักษาตัวที่โรงพยาบาลของไทย ในแต่ละปีมีจำนวนไม่น้อย แถมยังเข้ามาอาศัยซื้อข้าวของเครื่องใช้ ของไทยเราเป็นมูลค่ามหาศาล เราก็อยากจะให้รัฐบาล เร่งคิดว่าทำยังไงก็ได้ให้มันอย่ามีเรื่องแบบนี้เถอะ ขอให้มันยุติกันได้ไหม ให้คุยกันได้ไหม ตนคิดว่ามันน่าจะคุยกันได้.
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://siamrath.co.th/n/627459&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw20OgZLuHAj5yrU9hSAV0sA