ประธานสภาอุตสาหกรรมขอนแก่น วอนรัฐบาลเร่งเจรจาหาทางออกช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย หลังสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้า 36% หวังใช้ “ข้าวไทย” เจรจาต่อรองเรื่องภาษีเป็นทางออกประเทศ ชี้ต้องใช้ความได้เปรียบดุลการค้าเป็นการต่อรอง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 มิ.ย.2568 ที่สภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น นายทวีสันต์ วิชัยวงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่าขณะนี้ภาคอุตสาหกรรม ยังคงต้องติดตามเรื่องการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา อย่างต่อเนื่องแม้ว่าการที่ศาลการค้าระหว่างประเทศที่ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วว่านโยบายของ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่สามารถทำได้ แต่ศาลอุทธรณ์รับไว้พิจารณา ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการของศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งภาคอุตสาหกรรมต้องดูว่าคำสั่งศาลที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดนั้นเราต้องดูว่าอะไรที่ทำได้ หรือทำไมได้ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วนั้นนี่คือสงครามการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดการเจรจา ซึ่งกระทบกันทั่วโลก ซึ่งแม้กระทั่งอังกฤษที่เป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐอเมริกา ก็ได้มีการเข้าเจรจา ซึ่งก็ได้รับสิทธิ์ให้กลับมาทีอัตราภาษีนำเข้า 10%
“ในกลุ่มประเทศอาเซียน ไทยเราได้ถูกนโยบายดังกล่าวที่ 36% ซึ่งน้อยกว่าเวียดนาม และ สปป.ลาว ซึ่งก็ส่งผลดกระทบกับไทยชัดเจน ดูได้จากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นเราส่งของไปขายแต่เราได้เงินน้อยลง ทั้งนี้โดยส่วนตัวถ้าจะมองว่าจะมีผลดีเกิดขึ้นกับไทยจากนี้ไปอย่างไรก็ต้องดูความชัดเจนของรัฐบาลสหรัฐฯว่นจะปลดล็อค หรือคลายล็อคอย่างไร แต่ในวิกฤติเราก็มีโอกาส ไทยเราก็ต้องไปเจรจาเพราะหลายอย่างที่รัฐบาลสหรัฐฯยังต้องพึ่งพาเราอยู่ โดยเฉพาะข้าวไทย ที่ต้องนำเข้าจากไทย ซึ่งการเจรจาอาจจะงดเว้นสินค้าบางประเภท ถ้ามองในมุมของไทยเราถือดุลในเรื่องข้าวอยู่ เราก็ต้องใช้ความได้เปรียบดุลการค้าเป็นการต่อรอง จะต้องพิจารณาเป็นบางประเภท อย่าเหมารวม”
ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น กล่าวต่อว่า เราจึงต้องใช้วิกฤติที่เกิดขึ้นให้เป็นโอกาสให้ได้ เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ คงไม่ยอมง่ายๆ เพราะกระบวนการของศาลนั้นยังไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ดีขณะนี้ย่างน้อยที่สุดเราเองก็ต้องหันหลับมาช่วยผู้ประกอบการในไทย เพราะถึงอย่างไรไทยเราก็ต้องปรับตัว เพราะเราทราบกันอยู่แล้วสงครามที่จะต้องรบกันจริงๆ นั้นไม่มีใครอยากทำ แต่สงครามที่กระทบมากที่สุดคือสงครามการค้า เพราะทุกฝ่ายต้องปรับตัว ซึ่งก่อนหน้านี้เราเจอเรื่องคาร์บอนเครดิต ที่สินค้าไทย 7 รายการ ที่ต้องส่งออกไปยุโรปเราต้องปรับตัว ดังนั้นวันนี้มีเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯเข้ามาเราก็ต้องปรับตัวและร่วมกันทำวิกฤติให้เป็นโอกาส ภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมเราจะทำอย่างไรที่จะช่วยผู้ประกอบการของเรานั้นมีต้นทุนที่น้อยลง และแข่งขันกับนานาชาติได้ อย่างไรก็ดีขณะนี้ไทยปรับขึ้น 36%ถ้าการเจรจาร่วมระหว่างรัฐบาลเกิดขึ้นโดยส่วนตัวอยากให้กลับมาในอัตราเดิม เพราะการที่จะลดน้อยลงกว่านี้คงเป็นไปไม่ได้ จุดเดิมน่าจะเหมาะสมเพราะเราอยู่ที่จุดเดิมมานานและผู้ประกอบการทุกคนนั้นปรับตัวได้แล้ว
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://ch3plus.com/news/economy/morning/440914&ct=ga&cd=CAIyHGY3N2RkMGYwMjUwYTJhNjg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3Fdxze58f4l5oh_PAs193W