ครุกแมน เตือนเศรษฐกิจสหรัฐจะหายนะ จากทรัมป์โจมตีฮาร์วาร์ด

พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ระบุมีหลายเหตุผลที่คนจะไม่ชอบฮาร์วาร์ด(Harvard) เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่ร่ำรวย  เป็นมหาวิทยาลัยที่จัดอยู่ในกลุ่มชนชั้นสูง มหาวิทยาลัยปฏิเสธใบสมัครของเขาสมัยเป็นนักเรียนมัธยมปลายด้วย

“แต่ความพยายามของกลุ่มทรัมป์ที่ต้องการทำลายฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ  จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่ออนาคตของประเทศเรา” ครุกแมน เขียนบทความวิจารณ์นโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดีย Substack  

รัฐบาลทรัมป์ได้ตัดเงินอุดหนุน และออกคำสั่งห้ามฮาร์วาร์ดรับนักศึกษาต่างชาติ และล่าสุดสั่งให้สถานทูต สถานกงสุลสหรัฐ ทั่วโลกหยุดนัดสัมภาษณ์เพื่อออกวีซ่าให้กับนักศึกษาต่างชาติ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง 

ครุกแมน กล่าวโทษว่า ประเด็นที่สำคัญที่สุดของรณรงค์โจมตี การข่มขู่และสร้างความปั่นป่วนให้กับมหาวิทยาลัยในขณะนี้คือ การโจมตีเสรีภาพทางความคิด 

ครุกแมน กล่าวว่า เขาหวังว่า จะไม่มีใครเชื่อตามข้อกล่าวอ้างของขบวนการ “ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง : MAGA” ที่อ้างว่ามหาวิทยาลัยกำลังปลูกฝังความคิดตื่นรู้,ความหลากหลาย ความเท่าเทียม ทุกคนเข้าถึงได้ (DEI) และ ลัทธิมากซ์ ให้กับนักศึกษาของตน 

ครุกแมนชี้ว่า ข้ออ้างที่แท้จริงของ MAGA และรัฐบาลทรัมป์คือ สถาบันเหล่านี้ไม่ได้ปลูกฝังความคิดของฝ่ายขวา และการเชื่อฟังในสิ่งที่ผู้นำบอก ให้กับนักศึกษา  แต่มหาวิทยาลัยเปิดให้คนหนุ่มสาวศึกษาแนวคิดต่างๆ และสนับสนุนให้พวกเขาคิดเองเป็น 

• เศรษฐกิจเสี่ยงหายนะจากนโยบายป่วนมหาวิทยาลัย

ครุกแมน กล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงความจริงอันน่าสะพรึงกลัวของการทำสงครามกับการเรียนรู้ของทรัมป์ รวมถึงสงครามกับความคิดทางวิทยาศาสตร์แล้ว  การตรวจสอบผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการโจมตีระบบการศึกษาระดับสูงอาจดูเหมือนเป็นเรื่องรอง 

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ต้องเข้าใจว่าผลที่ตามมาเหล่านี้ก็จะเป็นหายนะเช่นกัน ทั้งต่อเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในอนาคตระยะยาว

ครุกแมนเห็นว่า ฮาร์วาร์ดเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของสหรัฐ นักศึกษาต่างชาติที่รัฐบาลทรัมป์พยายามห้ามมักจะจ่ายค่าเล่าเรียนเอง ซึ่งเป็นเงินที่แสดงเป็นรายรับในดุลการค้าของสหรัฐ

 แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่ามากก็คือ ฮาร์วาร์ดเป็นองค์ประกอบสำคัญในเศรษฐกิจของนครบอสตัน และปริมณฑล (Greater Boston) เศรษฐกิจในภูมิภาคนี้เป็นหนึ่งในมงกุฎเพชรของเศรษฐกิจสหรัฐ เป็นหนึ่งในผู้สร้างรายได้สูง ความรู้เฉพาะทาง และนวัตกรรมที่สำคัญที่สุด

เศรษฐกิจในเขตมหานครมักจะใหญ่กว่าผลรวมของส่วนประกอบต่างๆ ธุรกิจต่างๆ รวมตัวกันจนกลายเป็นเศรษฐกิจในเขตมหานคร เนื่องจากปฏิสัมพันธ์เชิงบวกของธุรกิจเหล่านี้สร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่มีจุดแข็งที่เสริมซึ่งกัน และกัน ซึ่งโดยปกติแล้วสร้างขึ้นจากความสามารถหลักบางประการ ตัวอย่างที่มีชื่อเสียงคือ เขต อ่าวซานฟรานซิสโก (San Francisco Bay Area)  ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีดิจิทัล อีกตัวอย่างหนึ่งคือ นครนิวยอร์ก และเมืองโดยรอบ (Greater New York) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินชั้นนำของโลก

• ฮาร์วาร์ดช่วยให้เศรษฐกิจบอสตันแข็งแกร่ง

อะไรทำให้ Greater Boston พิเศษนัก? เศรษฐกิจของ Greater Boston อาจดูสับสนเนื่องจากภาคส่วนต่างๆ ที่ล้ำหน้าโลกนั้นดูแตกต่างกันมากเมื่อมองเผินๆ

ประการแรกคือ สถาบันการศึกษา: วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยจ้างงานคน 87,000 คนในพื้นที่ Greater Boston ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการจ้างงานที่สูงกว่าในอเมริกาโดยรวมมาก ประการที่สองคือ ศูนย์การแพทย์ระดับโลกที่รักษาคนไข้จากทั่วโลก และยังฝึกอบรมแพทย์ชั้นนำของโลกจำนวนมาก ประการที่สาม Greater Boston เป็นผู้นำทั้งในด้านปัญญาประดิษฐ์ AI และ “เทคโนโลยีขั้นสูง” ซึ่งเน้นย้ำถึงการปฏิสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลกับโลกทางกายภาพ ประการที่สี่ Greater Boston เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีชีวภาพชั้นนำของโลก

กิจกรรมทั้งหมดนี้มีความเหมือนกันอย่างไร? ครุกแมนชี้ว่า คำตอบก็คือ กิจกรรมทั้งหมดเชื่อมโยงกันด้วยความอยากรู้อยากเห็นทางปัญญา กระบวนการคิดอย่างเข้ม วินัยทางวิทยาศาสตร์ และความเปิดกว้างต่อแนวคิดใหม่ๆ คุณสมบัติเหล่านี้ทั้งหมดก่อให้เกิดการเปิดกว้างรับบุคลากรที่มีความสามารถสูงสุดจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา นักวิจัย และผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ทุกส่วนยังสนับสนุนซึ่งกันและกันอีกด้วย การพัฒนาทางปัญญาภายในมหาวิทยาลัยและกลุ่มการแพทย์เป็นแหล่งสำคัญของนวัตกรรมทางธุรกิจ และความสำเร็จทางธุรกิจนำมาซึ่งการสนับสนุนทางการเงิน และคำชื่นชมต่อโรงเรียนต่างๆ

ฮาร์วาร์ดไม่ได้เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นสุดในจักรวาลทางปัญญา และเศรษฐกิจนี้เลย และอาจจะไม่ใช่ผู้เล่นที่สำคัญที่สุดด้วยซ้ำ  มหาวิทยาลัย เอ็มไอที (M.I.T.) อาจจะเป็นแหล่งบ่มเพาะธุรกิจใหม่ๆ ที่ใหญ่กว่าเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ห่างออกไปสองไมล์จากถนนแมสซาชูเซตส์ แต่เอ็มไอทีจะไม่เป็นเช่นที่เป็นอยู่นี้ หากไม่มีฮาร์วาร์ดอยู่ใกล้ๆ และในทางกลับกัน มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ อีกหลายสิบแห่งในพื้นที่ก็เช่นเดียวกัน รวมถึงธุรกิจหลายร้อยหรืออาจถึงหลายพันแห่งในบริเวณใกล้เคียง โรงพยาบาลและการวิจัยทางการแพทย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศเดียวกัน

ดังนั้น การทำลายฮาร์วาร์ด แม้ว่าการรณรงค์ต่อต้านปัญญานิยมจะหยุดลง ณ ตรงนั้น ก็เหมือนกับการดึงชิ้นส่วนสำคัญออกจากหอคอยเจงก้า ในเกมตึกถล่มโอกาสที่โครงสร้างทั้งหมดของระบบนิเวศการศึกษา และนวัตกรรมของ Greater Boston จะพังทลายก็มีสูง ดังนั้น อเมริกาจะสูญเสียทุกสิ่งที่ Greater Boston ทำเพื่อพัฒนา และเสริมสร้างประเทศชาติ

ครุกแมน กล่าวว่า ฮาร์วาร์ดไม่ได้แค่ให้การศึกษาแก่ลูกหลานของชนชั้นสูงในอเมริกาเท่านั้น แต่ยังให้การศึกษาแก่ลูกหลานของชนชั้นสูงทั่วโลกด้วย ถ้าทรัมป์ไม่ห้ามไม่ให้พวกเขามาอเมริกา ผู้คนอาจรู้สึกผสมปนเปกันเกี่ยวกับบทบาทนั้น แต่ความจริงก็คือ ฮาร์วาร์ดเป็นเสาหลักที่สำคัญในการสร้างอำนาจอ่อน (Soft Power)ของอเมริกา

“พวก MAGA เข้าใจหรือไม่ว่าการรณรงค์ต่อต้านมหาวิทยาลัยของพวกเขาจะสร้างความเสียหายต่อความเจริญรุ่งเรือง และอำนาจของอเมริกามากแค่ไหน?  อาจจะไม่ แต่ผมสงสัยว่ามันคงไม่สำคัญแม้พวกเขาเข้าใจ จากมุมมองของพวกเขา การทำให้ประเทศอเมริกายากจน อ่อนแอ และเจ็บป่วยมากขึ้นเป็นราคาที่ยอมรับได้สำหรับการทำให้ประเทศโง่เขลา” ครุกแมน สรุป

พิสูจน์อักษร….สุรีย์  ศิลาวงษ์