“พิชัย” เผย! พรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) เตรียมเคาะโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท

วันนี้ (17 มิ.ย.68) นายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.68) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยในที่ประชุมจะพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้งบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นได้เตรียมสรุปเลือกโครงการที่เหมาะสมและมีความพร้อมมากที่สุดก่อน และคาดว่าการสรุปโครงการที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรก จะใช้งบประมาณมากกว่า 1 แสนล้านบาท

คอนเทนต์แนะนำ

พร้อมยืนยันว่าจะเริ่มดำเนินการโครงการต่างๆภายในปีงบประมาณ 2568 และจะต้องใช้งบประมาณให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2569 ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจภายในปีนี้ได้ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้

ส่วนความคืบหน้าการเจรจากับสหรัฐอเมริกา นั้น นายพิชัย ระบุว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการยื่นข้อเสนอฉบับล่าสุดของไทยอย่างเป็นทางการในเรื่องการค้ากับสหรัฐ หลังจากที่การเจรจาอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นภายในสัปดาห์นี้ โดยรอบแรกจะเป็นการเจรนาในเชิงเทคนิคของระดับเจ้าหน้าที่ และเมื่อมีข้อสรุปแล้วก็จะมีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการอีกครั้งในภายหลัง

หลังจากนั้นตนเองจะมีการหารือกับสหรัฐด้วยตัวเอง  ซึ่งคาดว่ารอบแรกจะเป็นการหารือผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนจะเดินทางไปเจรจาที่สหรัฐด้วยตนเองเมื่อไหร่นั้น ต้องรอดูการหารือรอบแรกก่อนว่าจะออกมาในทิศทางไหนโดยข้อเสนอที่ประเทศไทยจะยื่น  ยังอยู่ภายใต้หลักการห้าข้อตามที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ 

สำหรับกรณี การคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่  นายพิชัย ยืนยันว่า ตนเองพร้อมทำงาน กับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) คนใหม่ทุกคน ตามที่มีรายชื่อลงสมัครไม่ว่าผลคัดเลือกจะออกมาเป็นใครก็ตาม แต่ขอเพียงให้คณะกรรมการคัดเลือกเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมมาเท่านั้น เนื่องจากในปัจจุบันตนเองหารือร่วมกับ ธปท. ใกล้ชิดมากขึ้น โดยมีหลายเรื่องที่กำลังหารือและทำงานร่วมกับแบงค์ชาติอยู่ 

โดยในวันที่ 20 มิ.ย. 68  คณะกรรมการคัดเลือกจะมีการประชุมเพื่อพิจารณารายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ ก่อนที่จะให้ผู้ผ่านคุณสมบัติเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 24 มิ.ย. 68 ต่อไป และหลังจากนั้นคณะกรรมการคัดเลือกจะคัดเลือกผู้ผ่านเกณฑ์จำนวนสองรายชื่อ ให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก่อนวันที่ 2 ก.ค. 68 เพื่อให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คัดเลือกเหลือหนึ่งรายชื่อเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี