ประธานเครือสหพัฒน์ มอง เศรษฐกิจไทย ปี 68 เป็น“ยุครถสามล้อ” แย่กว่าช่วงโควิด-19

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยถึงมุมมองเศรษฐกิจไทยในปี 2568 โดยมองว่า แม้เศรษฐกิจทั่วโลกไม่ค่อยดี แต่เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยยังสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ส่วนวิกฤตเศรษฐกิจไทยโตต่ำจะกินเวลายาวนาน 2-3 ปีหรือไม่นั้น ก็มองว่าไม่น่าจะนาน เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง และต้องติดตามสถานการณ์ไปอีกระยะหนึ่ง โดยเฉพาะต้องดูว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะมีทิศทางไปทางใด

คอนเทนต์แนะนำ

เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐส่งผลสะเทือนไปถึงเศรษฐกิจทั่วโลก ส่วนสถานการณ์สงครามการค้าในช่วงนี้ โดยเฉพาะ สหรัฐ-จีน มองว่า ไทย ควรอยู่จุดกลางดีที่สุดและไม่เลือกข้าง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของประเทศ

นายบุณยสิทธิ์ ได้เปรียบเทียบสภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน เปรียบเสมือนกับยุค “รถสามล้อ” ที่ยังอยู่ได้และเศรษฐกิจถดถอย ที่สำคัญเศรษฐกิจปีนี้ลำบากกว่าช่วงวิกฤต โควิด-19 อีกทั้ง ยังแตกต่างจากปีที่ผ่านมา ที่เคยมองว่าเศรษฐกิจไทยเปรียบเหมือนกับ “รถยนต์ไฮบริด” ดังนั้น ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ผู้ประกอบการและนักธุรกิจ ต้องรู้จักปรับตัว ถึงจะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้

รวมถึง รัฐบาล ควรมีมาตรการดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเดินหน้าโครงการใหญ่ อย่างเช่น “แลนด์บริดจ์” และ ขยายโครงการลงทุนในพื้นที่ “EEC” ซึ่งขณะนี้ โครงการต่างๆที่รัฐบาลวางแผนไว้ยังไม่มีความคืบหน้า มีเพียงแต่พูดนโยบายเท่านั้น  

ส่วนมาตรการระยะสั้นในช่วง 3-6 เดือนที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการ น่าจะมีมาตรการอะไรออกมาบ้าง ก็มองว่า สำคัญที่สุด คือ ต้องทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะส่งผลทำให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังเห็นด้วยที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลด้านสุขภาพ เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงควรมีการลงทุนด้านนี้เพิ่มขึ้น อีกทั้งชาวต่างชาตินิยมเข้ามาพักอาศัยในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี

ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ขณะนี้รัฐบาลได้มีการชะลอโครงการออกไป นายบุณยสิทธิ์ มองว่า การแจกเงินไม่ได้สร้างเศรษฐกิจ เป็นตัวหาเสียงมากกว่า ซึ่งประเทศไทยมีสิ่งที่ควรพัฒนาหลายอย่าง แต่หากเอานโยบายเรื่องการเมืองเป็นหลัก ก็จะทำให้ต่างประเทศไม่ยอมกลับเข้ามาลงทุน