ความเติบโตของปรัชญาแนวคิด “ประชาธิปไตยเสรีนิยม” ที่เผยแพร่เบ่งบานช่วงหลัง “สงครามเย็น” ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการนำเสนอความคิดในงานที่ ฟูกูยาม่า (Francis Fukuyama) เขียนใน THE END OF HISTORY AND THE LAST MAN ที่มันกลายเป็นแนวคิดนำ (hegemony) ทางปรัชญาการเมืองหลังสงครามเย็น และกลายป็นเสมือนคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างโลกการเมืองยุคใหม่!
จนมีผลให้การเมืองเกือบทุกมุมโลกเชื่อมั่นประชาธิปไตยเสรีนิยม! บานสะพรั่งสร้างอำเภอใจในวงจรการเมืองแบบประชาธิปไตย! จนเป็นแนวคิดปรัชญาการเมืองแบบไร้คู่แข่ง ส่งผลให้เกือบทุกมุมโลกเดินตาม-บูชาเป็นคัมภีร์การเคลื่อนไปสู่สังคมประชาธิปไตยตามก้นตะวันตก! บนพื้นฐานที่เชื่อว่ามันเป็นแนวปรัชญาการเมืองหนทางเดียวของทุกบ้านเมือง ทุกสังคมประเทศ และสังคมโลกทั้งใบ!
แต่ไม่นานนี้กลับปรากฏความจริงจากสังคมที่ดำเนินปรัชญาแนวทางทางการเมืองที่ต่างออกไป ที่เพิ่งถูกค้นพบใหม่! ที่ได้สร้างการเติบโตทางสังคมเศรษฐกิจ-ความมั่นคง-หยุดความยากจนผู้คนกว่า 700 ล้านคนเช่น “จีน” ที่มีสังคมการเมืองแบบของตนเอง ช่วยผู้คนพ้นจากความยากจนได้จริง สร้างความก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงมหาศาล จนโดดเด่นเป็นผู้นำโลกที่สง่างามเฉพาะตัว!
ภายใต้แนวทางปรัชญาการเมือง-การจัดการบริหารประเทศที่ไม่ได้เดินตามแนวทางประชาธิไตยเสรีนิยมและไม่เชื่อแนวคิดแบบ “จุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์!” ที่ฟูกูยาม่าพรรณาไว้ในงานดังกล่าว
หรือ “รัสเซีย” ที่ดำเนินแนวทางการเมือง-การบริหารประเทศแบบเฉพาะตัว จัดการตัวเองท่ามกลางแรงกดดัน-บีบคั้น-บอยคอตจากอเมริกาและพันธมิตร โดยที่โซเวียตวางรากฐานการบริหารจัดการตัวเองในทิศทางปรัชญาการเมืองที่สืบทอดอย่างต่อเนื่องจากผู้นำคนก่อนจนถึง “ปูติน!” ที่สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ-การอยู่ดีให้ผู้คนในรัสเซีย ท่ามกลางแรงกดดันจากโลกเสรี! ทั้งสองประเทศมีเศรษฐกิจเติบโตมั่นคง
(รัสเซียมีหนี้สินแค่ร้อยละ 16 ของจีดีพี!) สังคม-เศรษฐกิจทั้งของ “จีน” และ “โซเวียต” ยิ่งวันยิ่งแข็งแกร่ง!
ปรากฏการณ์จากสองประเทศที่ยิ่งใหญ่ “จีน” และ “โซเวียต” มีแนวทางการเมือง-การบริหารจัดการประเทศเฉพาะตัวที่ต่างจากแนวทางประชาธิปไตยเสรีนิยม! อย่างสิ้นเชิง
ปรากฏการณ์นี้ กระตุ้นเตือนประชาคมโลกว่า ถึงเวลาต้องคิดทบทวนใหม่ว่าการโฆษณาชวนเชื่อของแนวคิดประชาธิปไตยเสรีนิยม ที่พรรณนาเชิดชูไว้ในงาน “จุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์” ว่าเป็นแนวทางเดียวที่ดีสุดนั้น แท้จริงมันใช่หรือเปล่า? มันเป็นความจริง-ทางรอดเดียวหรือเปล่า? ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ววันนี้!
นี่ยังไม่พูดถึงการเติบโตของกลุ่ม BRICS การเปิดเส้นทางเชื่อมโยงโลกของจีนแบบ Belt Road Initiative (เส้นทางสายใหมศตวรรษที่ 21) ที่จีนสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง รวมถึงความตกต่ำในสังคมโลกตะวันตกที่เคลื่อนไปอย่างทวนกระแสกับความก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและความก้าวหน้าของโลก ที่สามารถลดต้นทุนลดการบริโภคและทรัพยากรให้มวลมนุษยชาติ!
ทั้งหมดคือสภาพความจริงที่ต้องคิดทบทวนถึงปรัชญาการเมือง-สังคมที่เป็นจริงในปัจจุบัน ที่ต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าโลกตกอยู่ในกับดักประชาธิปไตยเสรีนิยมอยู่นานเกินจนสิ้นคิด-สิ้นหวังหรือเปล่า?
หันดูสังคมการเมืองไทยวันนี้ โดยภาพรวมของดูเหมือนถดถอยทุกทิศทางตั้งแต่เศรษฐกิจ สังคม การเมือง จนถึงการศึกษา (ที่วันนี้ถูกจัดอันดับอยู่หลังลาว!) เศรษฐกิจ โตต่ำสุดในอาเซียนจากที่พยายามจะเป็นผู้นำอาเซียน! วันนี้กลายเป็นเศรษฐกิจสิ้นหวัง-วิ่งวนอยู่ในกลไกการบริหารราชการที่ล้าหลัง!
พึ่งพาการเมืองที่สิ้นคิด-สิ้นหวัง! นี่คือสภาพความรู้สึกของประชาชน ที่มันสร้างความอ่อนล้า ถดถอย มองไม่เห็นอนาคตของประเทศ! ท่ามกลางกระแสการปลุกเร้าของการเมืองแบบประชาธิปไตยเสรีนิยมตามตูดตะวันตกอย่างสิ้นคิด! แม้ว่าเรามักอ้างเราเป็นบ้านเมืองปลาเล็ก-ปลาน้อยในสังคมโลก! แต่ปัญหาจริงไม่ได้อยู่ที่ว่าเรามีสถานะปลาเล็ก-ปลาน้อยหรือไม่? มันอยู่ที่ว่าการเมือง-การบริหารประเทศมีกึ๋น-มีพันธสัญญาความรับผิดชอบต่อความก้าวหน้ามั่นคงของประเทศหรือเปล่า!?!
สังคมการเมืองที่ไร้ทางเลือกเยี่ยงทุกวันนี้ ผู้คนมองว่าเป็นการเมืองที่แสวงหาประโยชน์-สร้างประโยชน์ทับซ้อนมากกว่าเป็นการเมืองที่มีพันธสัญญาที่จะสร้างความก้าวหน้าให้ประเทศ! ส่วนระบบราชการนั้นผู้คนสัมผัสได้ว่าพึ่งพาไม่ได้ น่ากลัว ไม่น่าคบหา สร้างแต่อุปสรรค ความน่ารำคาญ-หยุมหยิมทุกเรื่องที่ไปเกี่ยวข้องด้วย! ฯลฯ นี่เป็นเสียงของประชาชน-ผู้คนที่ไปข้องแวะกับการทำงานของระบบราชการ ไม่ว่ากับตำรวจ ฝ่ายปกครอง จนถึงกลุ่มการศึกษา (ที่กำลังเคลื่อนอยู่ในวงจรการศึกษาที่สิ้นคิด-ไร้อนาคตมากกว่าจะช่วยสร้างทุนมนุษย์ที่เชื่อมศักยภาพผู้คนเข้ากับโลกยุคใหม่)
ทั้งหมดนี้เป็นคำถามต่อแนวคิดปรัชญาการเมืองการปกครองวันนี้ที่ว่า วิถีประชาธิปไตยเสรีนิยมนั้นเหมาะสมกับโลกวันนี้จริงหรือ? เป็น Message แรกที่อยากกระตุ้นต่อมคิดให้ร่วมกันคิดไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบ! และสะท้อนความคิด-ความเห็นร่วมกัน ด้วยว่าอนาคตของบ้านเมืองนั้นเป็นของเราทุกคน!
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.salika.co/2025/05/30/truth-about-liberal-democracy-in-thailand/&ct=ga&cd=CAIyHDI4ODcxZTExZDQzMWVlYzA6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw3LK5Bmk1QSDywuGaSZFSXF