“อัครแสนคีรี” ประสาน “นฤมล” ดันกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ชัยภูมิ สร้างรายได้ยั่งยืน

“อัครแสนคีรี” ประสาน “นฤมล” รมว.เกษตรฯ ดันกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของ จ.ชัยภูมิ สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชาวบ้านบนพื้นที่สูง หลังความต้องการล้นเกินผลผลิต 3 เท่าตัว

วันที่ 15 มิถุนายน 2568 นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ และโฆษกพรรคกล้าธรรม (กธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมที่จะมอบต้นกาแฟให้กับเกษตรกร จ.ชัยภูมิ เพื่อเป็นการส่งเสริมการเพาะปลูกกาแฟตามนโยบายของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่ผลักดันให้เกษตรกรปลูกพืชที่ตลาดมีความต้องการสูง อาทิ กาแฟ โกโก้ ถั่วเหลือง เนื่องจากผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ ทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

จากข้อมูลเมื่อปี 2566 ปริมาณความต้องการกาแฟในไทยอยู่ที่ประมาณ 46,000 ตัน แต่ผลผลิตกาแฟของไทยที่มีอยู่ประมาณ 16,575 ตันเท่านั้น หมายความว่าปัจจุบันกาแฟในประเทศไทยยังขาดตลาดมากกว่า 30,000 ตัน ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงเกิดช่องว่างเชิงธุรกิจที่ชัดเจน และนี่ถือเป็นโอกาสให้เกษตรกรในพื้นที่ภูแลนคาที่จะสามารถสร้างรายได้จากพืชเศรษฐกิจที่มีอุปสงค์ล้นเกินอุปทาน เพราะมูลค่าตลาดกาแฟในไทยมีมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2566 ไทยส่งออกกาแฟมูลค่าราว 126 ล้านดอลลาร์ โดยที่ตลาดกาแฟสำเร็จรูปและกาแฟพ็อดมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เช่น ตลาด coffee pods ที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3.84 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2571

“พื้นที่อำเภอแก้งคร้อ โดยเฉพาะบริเวณเขาภูแลนคา เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การปลูกกาแฟ โดยเฉพาะพันธุ์อาราบิก้า เพราะอยู่สูงกว่าน้ำทะเล และเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแร่นานาชนิด อีกทั้งมีไม้สูงซึ่งสามารถเพาะพันธุ์กาแฟใต้ต้นไม้ใหญ่ได้ ผมต้องขอขอบคุณ ศ.ดร.นฤมล ที่ได้มอบเมล็ดพันธุ์กาแฟให้กับเกษตรกร เพื่อเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของ จ.ชัยภูมิ ที่จะสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชาวบ้านบนพื้นที่สูง ทั้งนี้ ผมกำลังประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อมาถ่ายทอดองค์ความรู้การเพาะปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้าและอาราบิก้าด้วย”