
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 มิ.ย.68 ) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางสาวจิตติมา ศรีถาพร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน นายกองตรี พิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อรับฟังข้อเสนอและหารือแนวทางส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีความมุ่งมั่นในการผลักดันเศรษฐกิจการค้าของประเทศ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาคที่มีศักยภาพสูง เช่น จังหวัดอุดรธานี ที่เป็นประตูสำคัญสู่ลุ่มน้ำโขง พร้อมย้ำว่าจะได้เริ่มเจรจาการค้าประเด็นภาษีกับสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนั้น ยังมีแผนเจรจาการค้ากับจีน โดยเสนอให้ภาคเอกชนจีนร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยอย่างถูกต้อง ไม่ผ่านระบบนอมินี เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
สำหรับการค้าชายแดนร่วมกับลาว ตนพึ่งมีโอกาสพบกับ นายมะไลทอง กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ในระหว่างเยี่ยมชมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ได้ใช้โอกาสนี้หารือกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรมและการค้าของลาว เพื่อผลักดันการค้าระหว่างสองประเทศให้บรรลุเป้าหมาย 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 โดยไทยได้แสดงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่ง สปป.ลาว ครั้งที่ 8 โดยเร็ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ได้จัดร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2561 เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรม
ด้านภาคเอกชน โดยนายกัณฑ์พงศ์ สุระวรรณวิจิตร ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ระบุว่า ธุรกิจในพื้นที่ยังคงชะลอตัว และได้เสนอแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การจัดแคมเปญ “ลดทั้งเมือง” ตามแบบโมเดลพาณิชย์ลดราคา การจัดงานเกษตรแฟร์ประจำปี รวมถึงฟื้นฟูตลาดผ้าบ้านนาข่า ภายใต้โครงการ “ตลาดต้องชม” ของกรมการค้าภายใน เพื่อรองรับการจัดงานพืชสวนโลก ปี 2569 ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสู่เมืองเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังเสนอให้ลดความถี่ในการตรวจสอบการตีตราปั๊มน้ำมันโดยสำนักงานชั่งตวงวัด จากปีละสองครั้งเหลือปีละครั้ง เพื่อลดภาระต้นทุน รวมถึงข้อเสนอจากกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ให้พิจารณาทบทวนข้อจำกัดการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติที่พำนักถาวรในไทย โดยเฉพาะชาวต่างชาติวัยเกษียณที่ต้องการลงทุนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
สำหรับในเวทีดังกล่าว ภาคอุตสาหกรรม โดยพันโท ดร.วรายุส์ ศรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี เสนอแผนการลงทุนด้านไบโอเทคโนโลยีโดยใช้ชานอ้อยเป็นวัตถุดิบ พร้อมทั้งส่งเสริมการปลูกไผ่เพื่อผลิตถ่านชีวภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกรในพื้นที่
นางอรอนงค์ บุญโต ประธาน MOC Biz Club ไทยแลนด์ เสนอแนวคิดจัดตั้ง “Biz Shop” เชื่อมโยงสินค้าชุมชนจากภูมิภาคต่าง ๆ และผลักดันเข้าสู่ช่องทางจัดจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรด พร้อมขอการสนับสนุนด้านบัญชี และดิจิทัลแพลตฟอร์มจากกระทรวงพาณิชย์
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงฯ มีแผนคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเพื่อผลักดันเข้าสู่ตลาดต่างประเทศภายใต้แบรนด์ Thailand Brand รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่สำหรับ SMEs เพื่อให้สามารถบริหารจัดการด้านบัญชี และเชื่อมโยงเข้าสู่แพลตฟอร์ม e-commerce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงสินค้าชุมชนกับแหล่งท่องเที่ยวจะเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในรูปแบบโฮมสเตย์ เพื่อเสริมรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ความสำคัญกับการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยว เป็นสามเสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมผลักดันให้จังหวัดอุดรธานีเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่
———————————-
News Source : https://www.google.com/url?rct=j&sa=t&url=https://www.kaohoon.com/news/758782&ct=ga&cd=CAIyHGRmMjMzNDMzN2E0NjM2ZDg6Y29tOnRoOlRIOlI&usg=AOvVaw33IfRMUijj6gMDzmitcP64