ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน นักลงทุนวิตกเศรษฐกิจและการค้าชะลอตัว

รายงานจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐฯ หดตัวลงในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 12 เดือน ขณะเดียวกัน ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความกังวลด้านเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ รายงานการจ้างงานภาคเอกชนจากบริษัท ADP ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปี โดยนักลงทุนให้ความสำคัญกับข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนทางการค้า

ความตึงเครียดด้านการค้าเป็นปัจจัยกดดัน

รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็น 50% โดยวันที่ 5 มิถุนายน ถือเป็นกำหนดเส้นตายของฝ่ายบริหารในการรอข้อเสนอที่เหมาะสมจากประเทศคู่ค้า เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม ซึ่งมีกำหนดจะมีผลในเดือนกรกฎาคม หากไม่มีข้อตกลงใหม่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามอย่างใกล้ชิดถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ

ภาวะตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ 

• ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 91.90 จุด (-0.22%) ปิดที่ 42,427.74 จุด

• ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.44 จุด (+0.01%) ปิดที่ 5,970.81 จุด

• ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 61.53 จุด (+0.32%) ปิดที่ 19,460.49 จุด

แม้ดัชนี Nasdaq ได้รับแรงสนับสนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบางส่วน แต่โดยรวมแล้ว ปริมาณการซื้อขายยังคงเบาบางและมีความผันผวนสูง

ราคาน้ำมันปรับลดลง ขณะที่ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงหลังจากสำนักงานพลังงานของสหรัฐฯ รายงานปริมาณสต็อกน้ำมันดิบที่สูงกว่าคาดการณ์ สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปทาน ท่ามกลางภาวะตึงเครียดด้านการค้าและการเพิ่มกำลังการผลิตจากกลุ่ม OPEC+

• น้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.88% ปิดที่ 62.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

• น้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 1.17% ปิดที่ 64.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำ ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยนักลงทุนยังคงจับตาข้อมูลด้านแรงงานและผลของการเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้า

• ทองสปอต เพิ่มขึ้น 0.62% ปิดที่ 3,372.86 ดอลลาร์/ออนซ์

• ทองคำล่วงหน้า เพิ่มขึ้น 0.64% ปิดที่ 3,371.50 ดอลลาร์/ออนซ์