3กระทรวงฯของบ1.3หมื่นล้าน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงฯได้สรุปโครงการงบลงทุน เพื่อขอรับการจัดสรรงบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000  ล้านบาท ของทุกหน่วยงานภายใต้กระทรวงท่องเที่ยวฯและรวมถึงโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย รวม184 โครงการ วงเงินรวม 13,381 ล้านบาท คาดว่าจะส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวมูลค่า 267,000 ล้านบาท แต่โครงการที่เสนอทั้งหมดนี้ ต้องผ่านการกลั่นกรองของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนว่ามีโครงการใดที่ได้รับการอนุมัติ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 10 มิ.ย. 

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า งบกระตุ้นในส่วนที่ ททท.เสนอวงเงินมากกว่า 3,200 ล้านบาท จะก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว เป็นมูลค่า 90,000 ล้านบาท ทุกโครงการต้องเริ่มก่อนเดือน ก.ย.นี้ และดำเนินการได้ถึงเดือน ก.ย.2569 อาทิ โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,780 ล้านบาท กำหนดจำนวนสิทธิอยู่ที่ 500,000 สิทธิ,โครงการไทยแลนด์ ซัมเมอร์ บลาสต์ – ไชน่า แอนด์ โอเวอร์ซี มาร์เก็ต สติมูลัส แพลน (วงเงิน 750 ล้านบาท เฉพาะโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นมูลค่าทางเศรษฐกิจท่องเที่ยว 33,518 ล้านบาท ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 790,000 คน แบ่งการจัดสรรงบ 350 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากประเทศจีนและตลาดอื่นๆ บินตรงเข้าไทย ด้วยวิธีสนับสนุนเงิน 350,000 บาทต่อเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ไม่น้อยกว่า 1,000 เที่ยวบินจาก 15 เมืองรองของจีนเข้าสู่กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย พัทยา กระบี่ และสมุย คาดดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย 140,000 คน

“การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ไม่กระทบท่องเที่ยว เพราะเศรษฐกิจเป็นเรื่องปากท้องประชาชน ททท. จึงต้องเดินหน้ากระตุ้นตลาดท่องเที่ยวทุกวิถีทาง ซ่ึงเรื่องของการทำตลาด ต้องทำด้วยใจและการลงเงินด้วย ททท.จึงต้องเสนอของบกระตุ้นเศรษฐกิจ  เพราะตลาดคู่แข่งมีการใช้เงินงบส่งเสริม การตลาดร่วมกันจำนวนมาก แต่ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องใช้งบทำแคมเปญการตลาด ร่วมกันเป็นเม็ดเงินจำนวนมากเท่าคู่แข่ง เพราะองค์ประกอบภาคการท่องเที่ยวของไทยมีความสมบูรณ์อยู่แล้ว แต่ต้องเลือกว่าจะนำตลาดใด มาทำแคมเปญร่วมกันอย่างไร รูปแบบใด และต้องแก้ไขวิกฤติตลาดจีน ที่ติดลบให้ได้”